head prakardsod






























































แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 51
1
“COVID-19” คืออะไร อาการเป็นอย่างไร

"โควิด-19" (COVID-19) คือโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นไวรัสที่แพร่กระจายได้ง่ายจากคนสู่คนผ่านทางละอองฝอยจากการไอหรือจาม

อาการของโรคโควิด-19

อาการของโรคโควิด-19 นั้นมีความหลากหลาย บางคนอาจไม่แสดงอาการเลย ในขณะที่บางคนอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นปอดอักเสบและเสียชีวิตได้ โดยอาการที่พบบ่อยมีดังนี้:

ไข้ หรือ หนาวสั่น

ไอแห้ง หรือ ไอมีเสมหะ

อ่อนเพลีย หรือ เหนื่อยง่ายผิดปกติ

เจ็บคอ

ปวดศีรษะ

ปวดเมื่อยตามตัว

จมูกไม่ได้กลิ่น หรือ ลิ้นไม่รับรส

หายใจลำบาก หรือ หายใจหอบเหนื่อย

คลื่นไส้ หรือ อาเจียน

ท้องเสีย


ความรุนแรงของอาการ

อาการน้อย: มีไข้ต่ำๆ, เจ็บคอ, ไอแห้ง, ไม่มีน้ำมูก

อาการปานกลาง: มีไข้สูง, ไอหนักขึ้น, มีเสมหะ, หายใจหอบเหนื่อย

อาการรุนแรง: หายใจลำบากอย่างมาก, เจ็บหน้าอก, เหนื่อยหอบรุนแรง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

หากคุณมีอาการที่เข้าข่ายการติดเชื้อโควิด-19 ควรเข้ารับการตรวจและปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

2
โรคติดเชื้อแบคทีเรียของผิวหนัง (Bacterial Skin Infection)

โรคติดเชื้อแบคทีเรียของผิวหนัง (Bacterial Skin Infection) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้บ่อยกับคนทุกเพศทุกวัย เมื่อเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ผิวหนังผ่านทางบาดแผลเล็กๆ หรือรูขุมขน ก็จะเจริญเติบโตและทำให้เกิดการอักเสบ ซึ่งมีอาการและความรุนแรงแตกต่างกันไปตามชนิดของเชื้อและบริเวณที่ติดเชื้อ


สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นเมื่อผิวหนังได้รับความเสียหาย ทำให้เชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังหรือในสภาพแวดล้อมสามารถแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายได้

บาดแผล: การมีบาดแผลเล็กๆ น้อยๆ เช่น รอยถลอก, รอยขีดข่วน, แมลงกัดต่อย หรือแผลผ่าตัด

สุขอนามัยที่ไม่ดี: การรักษาความสะอาดของผิวหนังและร่างกายไม่เพียงพอ

ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ: ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน, โรคไต, หรือผู้ที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน

สภาพแวดล้อม: การสัมผัสกับสิ่งสกปรกหรือน้ำที่มีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อน


ประเภทและอาการที่พบบ่อย

โรคติดเชื้อแบคทีเรียของผิวหนังมีหลายประเภทตามความลึกของการติดเชื้อ

แผลพุพอง (Impetigo): เป็นการติดเชื้อที่ผิวหนังชั้นตื้น มีลักษณะเป็นตุ่มน้ำหรือตุ่มหนองใสๆ จากนั้นจะแตกออกเป็นแผลและมีสะเก็ดสีเหลืองคล้ายน้ำผึ้ง มักพบบริเวณใบหน้า แขน และขา

ฝี (Abscess/Boils): เกิดจากการติดเชื้อที่ลึกถึงรูขุมขน ทำให้เกิดเป็นตุ่มนูนแดงและเจ็บปวด ภายในมีหนอง มักพบบริเวณที่มีการเสียดสี เช่น คอ, รักแร้, หรือก้น

ไฟลามทุ่ง (Erysipelas): เป็นการติดเชื้อที่ผิวหนังชั้นบนและชั้นหนังแท้ ทำให้เกิดผื่นแดงเป็นปื้นนูนขอบชัดเจน มีอาการปวด บวม และร้อน

เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังอักเสบ (Cellulitis): เป็นการติดเชื้อที่ลึกถึงชั้นใต้ผิวหนังและชั้นไขมัน ทำให้ผิวหนังมีอาการบวม แดง และร้อน อาการอาจลุกลามอย่างรวดเร็วและอาจมีไข้สูงร่วมด้วย

แบคทีเรียกินเนื้อ (Necrotizing Fasciitis): เป็นภาวะติดเชื้อรุนแรงถึงชั้นพังผืดที่หุ้มกล้ามเนื้อ ทำให้เนื้อเยื่อตายอย่างรวดเร็ว มีอาการปวด บวม แดงร้อนอย่างมาก และผิวหนังอาจเปลี่ยนเป็นสีม่วง เป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรักษาเร่งด่วน


การรักษาและการป้องกัน

การรักษาจะขึ้นอยู่กับประเภทและความรุนแรงของอาการ โดยทั่วไปแพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะชนิดทาหรือรับประทาน แต่ในกรณีที่รุนแรงอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะแบบฉีดเข้าเส้นเลือด และอาจต้องผ่าตัดเพื่อกำจัดเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อออก

เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง ควรดูแลสุขอนามัยให้ดีด้วยการล้างมือและทำความสะอาดผิวหนังอย่างสม่ำเสมอ หากมีบาดแผล ควรล้างทำความสะอาดและดูแลแผลให้ถูกวิธี หากมีอาการน่าสงสัย ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้องค่ะ

3
จัดฟันบางนา: ภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าฟันคุด และวิธีรักษา

“ฟันคุด” คือ ฟันที่ขึ้นมาอย่างผิดปกติในช่องปาก จะขึ้นมาเพียงส่วนหนึ่ง ทั้งที่ตามธรรมชาติแล้วฟันทุกซี่จะต้องโผล่ขึ้นออกมาทั้งหมด หรือบางทีฟันคุดอาจจะฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกรไม่โผล่ขึ้นมาให้เห็นเลยก็มีเหมือนกัน

ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วฟันซี่ที่พบฟันคุดมากที่สุด ก็คือ ฟันกรามล่างซี่สุดท้าย ซึ่งจะอยุ่ด้านในสุดของกระดูกขากรรไกร ซึ่งส่วนมากที่พบจะโผล่มาในลักษณะเอียง หรือนอนในแนวระนาบ และจะขึ้นมาอยู่ชิดกดดันฟันข้างเคียงเสมอ ส่วนฟันซี่อื่นๆก็อาจจะเกิดการคุดได้แต่จะพบได้น้อยมาก โดยส่วนใหญ่แล้วหากพบฟันคุดจำเป็นที่จะต้องผ่าตัดออก

ซึ่งในวันนี้จะขอมาพูดถึงประเด็นอาการแทรกซ้อนที่มักพบได้บ่อยจากการผ่าตัดฟันคุด ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้


ทราบได้อย่างไรว่ามีฟันคุด ?

หากว่าทำการตรวจสอบช่องปากของตนเอง แล้วพบว่ามีฟันโผล่ขึ้นมาเพียงบางส่วน หรือมีฟันซี่ไหนหายไป ก็ให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่าท่านอาจจะเป็นฟันคุด และไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการ X-ray เพื่อให้เกิดความแน่ใจและชัดเจนอีกครั้งว่าท่านมีฟันคุด หลังจากนั้นทันตแพทย์ก็จะพูดคุยถึงแผนการรักษาเรื่องการผ่าตัดฟันคุดต่อไป


หลังจากผ่าตัดฟันคุดควรทำอย่างไร ?

– ให้ทำการกัดผ้าก๊อซทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถกลืนน้ำลายได้ตามปกติ

– ห้ามทำการบ้วนเลือดหรือน้ำลาย เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้เลือดไหลไม่หยุด

– หลังจากครบ 1 ชั่วโมงแล้วให้คายผ้าก๊อซที่กัดอยู่ออก แต่หากพบว่ายังมีเลือดไหลอยู่ก็ให้ทำการหาผ้าก๊อซชิ้นใหม่มากัดทิ้งไว้อีกประมาณ 30 นาที

– ประคบน้ำแข็งบริเวณแก้มที่ผ่าตัด

– รับประทานอาหารอ่อน

– รับประทานยาตามที่ทันตแพทย์สั่งให้ครบ

– งดออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬา

– แปรงฟันได้ตามปกติ

– ไปตัดไหมหลังจากผ่าตัด 7 วัน

– หากว่ามีปัญหาผิดปกติ หรือมีอาการแทรกซ้อน ควรพบทันตแพทย์โดยเร็ว


อาการแทรกซ้อนหลังจากผ่าตัดฟันคุด ?

– เลือดออกมากผิดปกติ

เป็นปกติอยู่แล้วที่จะมีเลือดออกหลังจากการผ่าตัด แต่การกัดผ้าก๊อซก็จะช่วยให้เลือดหยุดไหลในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง แต่ถ้าหากว่าหลังจากครบเวลายังมีเลือดออกมากผิดปกติ มักเกิดจากการที่หยุดเลือดหลังผ่าตัดไม่เพียงพอ หรือจากการกรีดตัด retromolar vessel แต่ถ้าหากว่ายังมีเลือดออกมากเป็นเวลาหลายวันแสดงว่าแผลผ่าตัดของท่านกำลังติดเชื้อ

วิธีรักษาคือเข้าพบทันตแพทย์ผู้รักษาโดยด่วน เพื่อให้ตรวจสอบว่ามีเศษฟันตกค้างอยู่หรือไม่ หากว่ามีการติดเชื้อทันตแพทย์ก็จะให้ยาปฏิชีวนะร่วมด้วย

– การบวม

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในปฏิกิริยาการตอบสนองของมนุษย์เมื่อพบเจอภัยอันตราย ที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัดฟันคุด ส่วนใหญ่จะมักบวมด้านนอกบริเวณแก้ม ผลมาจากการกรีดตัดเส้นใยของกล้ามเนื้อ หรืออาจเกิดจากเยื่อหุ้มกระดูกถูกฉีกขาด จึงทำให้เกิดอาการบวม ซึ่งส่วนใหญ่จะบวมอยู่ประมาณ 2 วัน แล้วร่างกายจะรักษาและปรับตัวเองตามธรรมชาติ

วิธีรักษาเบื้องต้นง่ายๆ คือการเอาน้ำแข็งมาประคบที่แก้มด้านนอกฝั่งที่บวม แต่ควรประคบแค่ในวันที่ทำการผ่าตัดมาเท่านั้น

– อาการติดเชื้อ

หากว่าได้ทำการผ่าฟันคุด และมีอาการบวมต่อเนื่องไม่ยอมยุบลงแม้ว่าจะผ่านไป 3-4 วันแล้วก็ตาม มักจะมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ ซึ่งจะมีอาการต่างจากการบวมตามธรรมชาติหลังผ่าตัด เพราะจะมีไข้สูง ผิวหนังด้านนอกบวมแดงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอาการติดเชื้อเหล่านี้มักเกิดจากการที่ดูแลสุขภาพช่องปากหลังผ่าตัดได้ไม่ดีเพียงพอ อาจเนื่องจากไม่กล้าที่จะทำความสะอาดช่องปากตามปกติ จึงส่งผลให้เกิดการสะสมของเชื้อโรคอักเสบและติดเชื้อตามมา

วิธีการรักษาคือควรเข้าพบทันตแพทย์ผู้ทำการรักษาเพื่อตรวจดูอาการ หากมีหนองทันตแพทย์จะทำการกรีดหนองออก ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเกลือ และอุดหลวมๆ

– อ้าปากไม่ขึ้น

ส่วนใหญ่แล้วการอ้าปากไม่ขึ้นหลังจากผ่าตัดฟันคุด จะพบในบุคคลที่ทำการผ่าตัดฟันคุดด้านล่าง สาเหตุเกิดจากกล้ามเนื้อหดเกร็ง เป็นผลมาจากอาการอักเสบหลังจากผ่าตัด รวมถึงการติดเชื้อ และเทคนิคการฉีดยาไม่ถูกต้อง

วิธีรักษาอาการเบื้องต้นก็คือ ใช้น้ำอุ่นประคบนอก และทำการอมเกลือฆ่าเชื้อและบ้วนออก หากว่าอาการยังไม่ดีขึ้นให้รีบเข้าพบทันตแพทย์โดยเร็ว

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็คือส่วนหนึ่งของโรคแทรกซ้อนที่อาจพบได้จากการถอนฟันคุด ให้ตั้งสติอย่างตกใจ และหาทางแก้ไขโดยเร็ว อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจจะรุกรามได้นั่นเอง

4
จัดฟันบางนา: ผลที่ตามมาหลังจาก “ถอนฟันคุด”

อย่างที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่า สุขภาพช่องปาก เป็นสิ่งที่ต้องดูแลอย่างเคร่งครัดและสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดโรคต่างๆในช่องปากได้ในระดับหนึ่ง แต่สำหรับบางโรคที่เกิดขึ้นในช่องปากและฟันอาจจะไม่ได้มาจากการดูแลสุขภาพช่องปากไม่ได้ แต่เกิดจากความผิดปกติต่างๆที่เกิดขึ้นในช่องปากได้

ยกตัวอย่างที่ที่เราจะพูดถึงในวันนี้ก็คือ ฟันคุด เกิดขึ้นจากการที่ฟันขึ้นผิดปกติในช่องปาก โดยอาจจะโผล่พ้นเหงือกขึ้นมาเพียงบางส่วน หรืออาจจะฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกรทั้งซี่ไม่โผล่มาให้เราเห็นก็เป็นได้ โดยส่วนใหญ่แล้วหากพบว่ามีฟันคุดทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้ทำการถอนออก เนื่องจากฟันเหล่านี้จะมีเชื้อแบคทีเรียเข้ามาแทรกได้ง่ายกว่าปกติ และส่งผลให้เกิดการติดเชื้อตามมา ซึ่งในการติดเชื้อนี้ไม่ได้ทำลายเพียงฟันซี่นั้นแต่อาจจะเกิดการแพร่กระจายเป็นวงกว้างขยายไปในส่วนรอบๆข้างของกระดูกขากกรรไกร และส่งผลให้เกิดปัญหาร้ายแรงต่อเนื่องขึ้นได้

ซึ่งในวันนี้จะขอพาท่านผู้ชมมารู้จักกับ ฟันคุด และผลกระทบที่จะได้รับ ให้ท่านผู้อ่านได้เตรียมตัวหลังจากถอนฟันคุดว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

จะทราบได้อย่างไรว่ามีฟันคุด ?

หากว่าเป็นการดูด้วยตาเปล่า อาจจะสังเกตได้จากการที่ฟันบางซี่หากมีการคุดจะโผล่มาได้ไม่เต็มที่จะขึ้นมาแค่เพียงบางส่วน หรือหากว่าเมื่อมีอายุครบ 18-25 ปี แต่ฟันยังขึ้นไม่ครบ ก็ให้คิดไว้ในใจก่อยเลยว่าอาจจะมีฟันคุดแบบฝังในกระดูกขากรรไกร แต่ทางที่ดีและชัวร์ที่สุดคงหนีไม่พ้นการพบทันตแพทย์เพื่อให้ทันตแพทย์ทำการ x-ray ก็จะทราบในทันทีว่าท่านมีฟันคุดหรือไม่


เหตุผลที่ต้องถอนฟันคุด

– เพื่อป้องกันการอักเสบบริเวณเหงือกที่ปกคลุมฟัน

– เพื่อป้องกันฟันข้างเคียงผุ เพราะ ซอกฟันระหว่างฟันคุดนั้นจะสามารถทำความสะอาดยาก เศษอาหารจึงเข้าไปตกค้างได้ง่าย

– เพื่อป้องกันการละลายของตัวกระดูกที่เกิดจากแรงดันของฟันคุดที่พยายามดันขึ้นมา

– เพื่อป้องกันการเกิดถุงน้ำหรือเนื้องอก เพราะเมื่อเก็บฟันคุดไว้นานเนื้อเยื่อหุ้มรอบฟันคุดอยากขยายใหญ่ขึ้นกลายเป็นถุงน้ำ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดการทำลายฟันซี่ข้างเคียงได้

– เพื่อไม่ให้เกิดกระดูกขากรรไกรหัก เนื่องจากว่าการที่ฟันคุดฝังอยู่นั้น จะทำให้กระดูกขากรรไกรบริเวณนั้นบางกว่าตำแหน่งอื่นๆ กลายเป็นจุดอ่อนหากได้รับการกระแทกกระดูกขากรรไกรในบริเวณดังกล่าวจะแตกหักง่ายกว่าปกติ


ผลที่ตามมาหลังจากผ่าฟันคุด

หลังจากที่ทำการถอนฟันคุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งแรกสุดที่หลีกหนีไม่ได้ เห็นทีจะเป็นอาการเจ็บปวด และไม่สบายตรงบริเวณที่ทำการถอนฟันคุดออกไป โดยคุณสามารถทำให้อาการเจ็บปวดนี้หายไปได้ด้วยการประคบเย็นบริเวณที่ถอนฟันคุดประมาณ 15 นาที ลดกิจกรรมหนักๆ และไม่ควรรับประทานของร้อน รวมถึงอาหารที่บดเคี้ยวยาก และควรทำการบ้วนปากด้วยน้ำเกลืออุ่นๆมากเท่าที่สามารถทำได้ ซึ่งอาการเจ็บปวดดังที่กล่าวมานี้จะหายไปเองโดยใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน แต่หากว่าอาการดังกล่าวยังไม่หายไป แถมมีอาการบวมแดง เจ็บปวดมากขึ้น รวมถึงเลือดออกไม่หยุด และมีไข้ร่วมด้วย ควรรีบติดต่อทันตแพทย์และเข้าพบในทันที

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ถือว่าเป็นผลข้างเคียงหลังจากการผ่าฟันคุดที่ทุกคนต้องเจอ แต่มันไม่ใช่ปัญหาถาวร ซึ่งสามารถหายได้เองตามธรรมชาติเพราะร่างกายจะทำการปรับตัว ซึ่งร่างกายของแต่ละคนนั้นการปรับตัวไม่เท่ากันระยะเวลาในการหายตัวจึงไม่เท่ากันนั่นเอง

ถึงอย่างไรก็ตามอย่ากลัวที่จะทำการถอนฟันคุดเนื่องจากว่าผลกระทบที่ได้รับหากไม่ทำการถอนนั้นร้ายแรงมากกว่าเป็นอย่างมาก ซึ่งอาจจะส่งผลถึงสุขภาพร่างกายและโรคร้ายรุนแรงในช่องปากได้อีกด้วย การถอนฟันคุดจึงถือได้ว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นที่สมควรจะทำเป็นอย่างยิ่ง

5
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)

ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)

สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


6
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/


7
4 เทคนิคเลือกซื้อของตกแต่งบ้านเพื่อจัดบ้านให้น่าอยู่

การเลือกซื้อของตกแต่งบ้านไม่ใช่แค่การซื้อของที่ชอบ แต่คือการสร้างบรรยากาศให้น่าอยู่และสะท้อนตัวตนของคุณ การใช้ 4 เทคนิคนี้จะช่วยให้คุณจัดบ้านได้อย่างลงตัวและน่าอยู่ขึ้นค่ะ


1. กำหนดสไตล์การตกแต่งที่ชัดเจน

ก่อนจะเริ่มซื้อของ ให้ตัดสินใจเลือกสไตล์ที่คุณชื่นชอบก่อน ไม่ว่าจะเป็น สไตล์มินิมอล ที่เน้นความเรียบง่าย, สไตล์โมเดิร์น ที่เน้นความทันสมัย หรือ สไตล์วินเทจ ที่เน้นความคลาสสิก การกำหนดสไตล์ที่แน่นอนจะช่วยให้คุณเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งได้อย่างถูกทิศทาง และทำให้บ้านดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน


2. เลือกโทนสีหลักและสีรอง

สีเป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างบรรยากาศให้ห้อง ลองเลือก โทนสีหลัก ของห้อง เช่น สีขาว สีเทา หรือสีครีม แล้วจึงค่อยเลือก สีรอง เพื่อเพิ่มลูกเล่นให้กับห้อง เช่น หมอนอิงสีสันสดใส ภาพติดผนัง หรือแจกัน การใช้สีตามหลักการนี้จะช่วยให้ห้องดูสมดุลและไม่น่าเบื่อจนเกินไป


3. เน้นของตกแต่งที่ใช้ประโยชน์ได้จริง

การเลือกของตกแต่งที่สามารถใช้งานได้จริงจะช่วยเพิ่มประโยชน์ใช้สอยให้กับบ้าน เช่น โคมไฟดีไซน์สวยๆ ที่ช่วยเพิ่มแสงสว่าง, ชั้นวางของเก๋ๆ ที่ช่วยจัดเก็บข้าวของ, หรือกระถางต้นไม้ที่ช่วยให้บ้านดูมีชีวิตชีวาขึ้น การเลือกของที่มีฟังก์ชันจะช่วยให้บ้านไม่รกและน่าอยู่มากขึ้น


4. จัดวางของให้สมดุลและมีมิติ

การจัดวางของตกแต่งให้เหมาะสมจะช่วยให้ห้องดูมีมิติมากขึ้น ลองใช้เทคนิคการจัดวางแบบสมดุล เช่น การจัดวางของที่มีขนาดเท่ากันในแต่ละข้าง หรือการจัดวางของที่มีขนาดแตกต่างกันแต่ให้ดูสมดุลกัน นอกจากนี้ การใช้กระจกจะช่วยสะท้อนแสงและทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้อีกด้วย

เมื่อคุณนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ บ้านของคุณจะไม่ใช่แค่ที่พักอาศัย แต่จะกลายเป็นสถานที่ที่คุณหลงรักและอยากกลับมาพักผ่อนในทุกๆ วันค่ะ

8
จิตวิทยา 'ของขวัญ' ให้อะไรถึงจะดีต่อใจคนรัก

ในทางจิตวิทยา การให้ของขวัญไม่ได้เป็นเพียงการมอบสิ่งของ แต่เป็นการสื่อสารความรู้สึก ความใส่ใจ และเป็นการสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการให้ของขวัญแก่คนรัก ซึ่งมีผลอย่างมากต่อความรู้สึกของผู้รับ


1. ให้ "ประสบการณ์" ที่สร้างความทรงจำ

จากงานวิจัยหลายชิ้นพบว่า ของขวัญที่เป็นประสบการณ์มักจะสร้างความประทับใจและความรู้สึกที่ดีในระยะยาวมากกว่าสิ่งของ เช่น การพาไปดินเนอร์สุดหรู การเดินทางท่องเที่ยว หรือตั๋วคอนเสิร์ตที่ผู้รับอยากไป เพราะของขวัญเหล่านี้ทำให้เกิดความทรงจำร่วมกัน และผู้รับจะรู้สึกดีกับผู้ให้มากขึ้น


2. ให้ "ความใส่ใจ" ผ่านของขวัญที่ตั้งใจเลือก

ของขวัญที่ดีที่สุดไม่ได้วัดกันที่ราคา แต่คือการแสดงให้เห็นว่าคุณรู้จักและเข้าใจผู้รับดีแค่ไหน ลองนึกถึงสิ่งที่ผู้รับเคยพูดถึงเมื่อนานมาแล้ว หรือของที่เขาต้องการแต่ไม่ได้ซื้อเอง การที่ได้รับของที่ "คาดไม่ถึง" แต่เป็นสิ่งที่ถูกใจมากๆ จะกระตุ้นสารโดพามีน (Dopamine) ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข ทำให้ผู้รับรู้สึกประทับใจและรับรู้ได้ถึงความตั้งใจของคุณ


3. ให้ "ความหมาย" มากกว่ามูลค่า

ของขวัญที่มีคุณค่าทางใจสูงมักจะสร้างความประทับใจได้มากกว่าของราคาแพง เช่น การ์ดเขียนมือที่บอกเล่าความในใจอย่างจริงใจ หรืออัลบั้มรูปที่รวบรวมความทรงจำดีๆ ของคุณทั้งคู่ ของขวัญเหล่านี้สื่อสารความรู้สึกและสะท้อนความสัมพันธ์ได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้ผู้รับรู้สึกอบอุ่นและมีความสุข


4. หลีกเลี่ยงของขวัญที่ "มีแต่ผู้ให้ชอบ"

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยคือการซื้อของขวัญที่เราชอบเอง ไม่ใช่สิ่งที่ผู้รับต้องการจริงๆ แม้จะตั้งใจเลือกมาอย่างดี แต่ถ้าไม่ตรงกับความต้องการหรือไลฟ์สไตล์ของผู้รับ ก็อาจทำให้ของขวัญชิ้นนั้นไม่มีประโยชน์และรู้สึกไม่ดีได้


โดยสรุปแล้ว การให้ของขวัญที่ "ดีต่อใจ" คนรักคือการแสดงให้เห็นว่าคุณรู้จัก เข้าใจ และใส่ใจในความต้องการของเขาจริงๆ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้แข็งแรงและมีความสุขได้อย่างยั่งยืน

9
การตลาดสร้างอาชีพ ผ่านโซเชียลมีเดียสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า กลยุทธ์อันทรงพลังเพื่อความสำเร็จทางออนไลน์


การตลาดผ่านโซเชียลมีเดียกลายเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับธุรกิจในการเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย ด้วยผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่หลายพันล้านคนบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Facebook, Instagram, Twitter, LinkedIn, TikTok และ YouTube ธุรกิจต่างๆ สามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ กระตุ้นยอดขาย และสร้างความสัมพันธ์อันยาวนานกับลูกค้าได้

การตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์และการตลาดออนไลน์เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและโปรโมทสินค้าหรือบริการ การเลือกใช้เครื่องมือใดขึ้นอยู่กับเป้าหมาย งบประมาณ และความเหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

การตลาดโซเชียลมีเดียคืออะไร?
การตลาดโซเชียลมีเดียคือกระบวนการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ บริการ หรือแบรนด์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างและแบ่งปันเนื้อหา การมีส่วนร่วมกับผู้ใช้ การแสดงโฆษณา และการวิเคราะห์ประสิทธิภาพเพื่อปรับให้ความพยายามทางการตลาดเหมาะสมที่สุด

ประโยชน์หลักของการตลาดโซเชียลมีเดีย
เพิ่มการรับรู้แบรนด์

โซเชียลมีเดียช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวนมากเพื่อนำเสนอแบรนด์ของตน เนื้อหาที่มีความสอดคล้องและน่าสนใจจะช่วยเพิ่มการมองเห็นและการจดจำ
เพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า

การโต้ตอบโดยตรงกับลูกค้าผ่านความคิดเห็น ข้อความ และเซสชันสด ช่วยให้ธุรกิจสร้างความไว้วางใจและความภักดี
ขับเคลื่อนการเข้าชมเว็บไซต์และยอดขาย

การแบ่งปันเนื้อหาและโปรโมชั่นที่มีคุณค่าด้วยปุ่มเรียกร้องให้ดำเนินการ (CTA) จะช่วยให้ธุรกิจดึงดูดลูกค้าที่มีศักยภาพไปที่เว็บไซต์ของตนและเพิ่มยอดขายได้
การโฆษณาที่คุ้มต้นทุน

เมื่อเทียบกับการตลาดแบบดั้งเดิม โฆษณาบนโซเชียลมีเดียมีราคาไม่แพงและสามารถกำหนดเป้าหมายตามข้อมูลประชากร ความสนใจ และพฤติกรรมของผู้ใช้ได้
ให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่า

แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียนำเสนอเครื่องมือวิเคราะห์ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถวัดประสิทธิภาพของแคมเปญ เข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และตัดสินใจโดยอิงจากข้อมูล
กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับการตลาดโซเชียลมีเดีย


กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน

ตั้งวัตถุประสงค์ที่เฉพาะเจาะจง เช่น เพิ่มการรับรู้แบรนด์ ขับเคลื่อนการเข้าชม หรือสร้างการขาย


รู้จักผู้ฟังของคุณ

เข้าใจข้อมูลประชากร ความสนใจ และพฤติกรรมออนไลน์ของลูกค้าเป้าหมายของคุณ


สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ

ใช้ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และสตรีมสดผสมผสานกันเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชม คุณภาพและความสม่ำเสมอคือสิ่งสำคัญ


ใช้ประโยชน์จากการตลาดแบบมีอิทธิพล

ร่วมมือกับผู้มีอิทธิพลเพื่อขยายการเข้าถึงและความน่าเชื่อถือของแบรนด์


ใช้โฆษณาแบบชำระเงิน

ลงโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมายเพื่อเพิ่มการเข้าถึงและการแปลงให้สูงสุด โฆษณาบน Facebook โฆษณาบน Instagram และโฆษณา TikTok เป็นตัวเลือกยอดนิยม
ตรวจสอบและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

ติดตามตัวชี้วัดหลัก เช่น อัตราการมีส่วนร่วม อัตราการคลิกผ่าน (CTR) และผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) อย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์

การตลาดผ่านโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตในยุคดิจิทัล โดยการใช้กลยุทธ์ที่วางแผนมาอย่างดีและมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายอย่างสม่ำเสมอ ธุรกิจต่างๆ สามารถสร้างการมีอยู่ของแบรนด์ที่แข็งแกร่งและขับเคลื่อนความสำเร็จทางออนไลน์ได้


10
เมนูสร้างอาชีพ ข้าวผัดปูหอมกลิ่นกระทะ ข้าวร่วน เนื้อปูไม่เละ อาหารจานเดียวทำง่ายอร่อยเด็ดไม่แพ้ร้านดัง

ข้าวผัดปูเป็นอาหารจานเดียวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยมีส่วนประกอบหลักคือข้าวสวย เนื้อปู ไข่ และผักต่าง ๆ เช่น ต้นหอมและแครอท ข้าวผัดปูมีรสชาติอร่อยกลมกล่อมและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง จึงทำให้เป็นเมนูโปรดของคนรักอาหารทะเล เมนูที่เรียบง่ายแต่แสนอร่อยนี้ผสมผสานข้าวหอมมะลิและเครื่องปรุงรสเข้าด้วยกันเพื่อสร้างมื้ออาหารที่แสนสบายและน่าพึงพอใจ


ส่วนผสมที่สำคัญ

เคล็ดลับของข้าวผัดปูที่อร่อยอยู่ที่คุณภาพของวัตถุดิบ:
ข้าวหอมมะลิ – จะอร่อยที่สุดเมื่อหุงแล้วทิ้งไว้ให้เย็นก่อนทอด เพราะจะทำให้มีเนื้อนุ่มฟู
เนื้อปู – ปูที่สด หวาน และนุ่มนวลเพิ่มรสชาติอาหารทะเลที่เข้มข้น
ไข่ – ให้เนื้อครีมและเสริมรสชาติให้กับจานอาหาร
กระเทียม – เพิ่มความหอมเมื่อผัด
ซีอิ๊วและน้ำปลา – เครื่องปรุงรสหลักที่ดึงรสชาติอูมามิออกมา
ต้นหอมและผักชี – เพิ่มความสดชื่นและมีชีวิตชีวา
มะนาวและแตงกวา – เสิร์ฟเป็นเครื่องเคียงเพื่อเพิ่มความสดชื่นและความสมดุล


วิธีทำข้าวผัดปู

เตรียมข้าว – ใช้ข้าวหอมมะลิเก่า 1 วันเพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวเละ
ผัดกระเทียม – ตั้งกระทะหรือกระทะจีนใส่น้ำมันแล้วผัดกระเทียมจนหอม
ปรุงไข่ – ย้ายกระเทียมไปไว้ด้านหนึ่ง ตอกไข่ลงไป แล้วคนเบาๆ
ใส่เนื้อปู – ใส่เนื้อปูลงไปแล้วผสมให้เข้ากัน
ผัดข้าว – ใส่ข้าวและผัดด้วยไฟแรงเพื่อผสมทุกอย่างเข้ากัน
ปรุงรสจาน – เพิ่มซีอิ๊วขาว น้ำปลา และพริกไทยขาวเล็กน้อยเพื่อรสชาติ
ปิดท้ายด้วยสมุนไพร – ผสมต้นหอมสับและผักชีเพื่อความรู้สึกสดชื่น
เสิร์ฟพร้อมเครื่องปรุง – จัดข้าวผัดใส่จานและเสิร์ฟพร้อมมะนาวฝานเป็นแว่นและแตงกวาหั่นเป็นแว่น


ทำไมคุณถึงต้องหลงรักข้าวผัดปู

รวดเร็วและง่ายดาย – ใช้เวลาเตรียมเพียงไม่กี่นาที ทำให้เป็นมื้ออาหารที่สมบูรณ์แบบสำหรับวันยุ่งๆ
รสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นหอม – การผสมผสานกันของกระเทียม ซอสถั่วเหลือง และปูสดทำให้เกิดรสชาติที่น่ารับประทานอย่างยิ่ง
มีคุณค่าทางโภชนาการ – เนื้อปูเป็นแหล่งโปรตีนและวิตามินที่จำเป็นอย่างยิ่ง

ข้าวผัดปูเป็นเมนูที่ต้องลองสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติอาหารไทยและอาหารทะเล ไม่ว่าคุณจะทำอาหารเองที่บ้านหรือสั่งอาหารจากร้านอาหาร ลองชิมและเพลิดเพลินกับรสชาติอาหารไทยในทุกคำ


11
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: ข้อเสื่อม (Osteoarthritis)

สาเหตุ

มีการสึกกร่อนของกระดูกอ่อนที่บุอยู่บนผิวข้อกระดูก ซึ่งทำหน้าที่ลดแรงกระแทก เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างและสารเคมีภายในข้อ ในที่สุดทำให้ผิวข้อกระดูก 2 ด้านที่สึกกร่อนและขรุขระ มีการเบียดหรือเสียดสีกันโดยตรง และเกิดการอักเสบเรื้อรังภายในข้อกระดูก

ขณะเดียวกันก็เกิดกระบวนการซ่อมแซมของข้อ ทำให้มีหินปูนหรือปุ่มงอก (osteophytes) เกาะรอบ ๆ ผิวข้อ ซึ่งมีบางส่วนแตกหักหลุดเข้าไปในข้อ ขัดขวางการเคลื่อนไหวของข้อ การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดดังกล่าวทำให้มีอาการปวดข้อ ข้อติด ข้อแข็ง และเคลื่อนไหวลำบาก

พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงหลายประการที่ทำให้เกิดโรคนี้ เช่น

    อายุและเพศ ภาวะข้อเสื่อมมักเกิดในผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงอายุมากกว่า 50 ปี หรือหลังวัยหมดประจำเดือน (เกี่ยวกับการพร่องฮอร์โมนเอสโทรเจน) แต่ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอายุน้อยกว่า 50 ปีจะพบในผู้ชายมากกว่า
    กรรมพันธุ์ ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคข้อเสื่อมชนิดหลายข้อ หรือข้อเสื่อมตั้งแต่อายุน้อย มีโอกาสที่จะเกิดข้อเสื่อมได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่มีข้อนิ้วมือเสื่อม จะพบว่าสามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ได้มากกว่ากลุ่มที่มีข้อเข่าเสื่อม
    ความอ้วน ทำให้เกิดแรงกดดันต่อข้อเข่าและสะโพก เกิดการเสื่อมได้เร็วขึ้น นอกจากนี้เนื้อเยื่อไขมันส่วนเกินยังสร้างสารเคมี (กลุ่ม cytokines) ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบภายในและรอบ ๆ ข้อ ทำให้ข้อถูกทำลาย
    การได้รับบาดเจ็บ (เช่น การวิ่ง การเล่นกีฬา) ที่มีการกระแทกต่อข้อเข่า
    การใช้ข้อมากหรือซ้ำ ๆ อยู่นาน ๆ เช่น การก้ม การนั่งงอเข่า การเดินขึ้นลงบันได การยืนนาน ๆ การยกของหนัก จะทำให้เกิดแรงกดดันต่อข้อต่อ เป็นเหตุให้ข้อเสื่อมได้
    กล้ามเนื้ออ่อนแอ เช่น กล้ามเนื้อต้นขา (quadriceps) อ่อนแอ อาจทำให้ข้อเข่าเสื่อมเร็ว
    เป็นโรคข้ออักเสบเรื้อรัง เช่น โรคปวดข้อรูมาตอยด์ เกาต์
    การติดเชื้อ เช่น ข้ออักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
    ข้อมีความผิดปกติมาแต่กำเนิด


อาการ

ลักษณะที่พบได้ทั่วไปสำหรับโรคข้อเสื่อมไม่ว่าจะเกิดตรงตำแหน่งใดก็คือ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดข้อ ข้อติด (ข้อแข็ง) หรือขยับได้ไม่สุด อาการปวดข้อมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป และเรื้อรังเป็นแรมเดือนแรมปี โดยมักไม่พบลักษณะอักเสบ (บวมแดงร้อน) ของข้อชัดเจน และไม่มีไข้ อาการปวดข้อมักจะไม่รุนแรง จะปวดเวลามีการใช้ข้อและทุเลาเมื่อพัก

อาการข้อแข็งหรือข้อติด ขยับลำบาก มักเกิดขึ้นเวลาตื่นนอนตอนเช้า หรือเมื่อหยุดพัก ไม่ได้ใช้ข้ออยู่ระยะหนึ่ง ซึ่งจะเป็นอยู่ไม่เกิน 30 นาที หลังจากมีการเคลื่อนไหวข้อก็จะทุเลาไปเอง

อาการปวดข้อและข้อติดมักจะเป็นเวลาอากาศเย็นชื้น หรืออากาศเปลี่ยนแปลง เนื่องจากแรงดันในข้อมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย

นอกจากนี้ข้อที่เสื่อมแต่ละตำแหน่งยังมีลักษณะอาการเฉพาะดังนี้

    ข้อนิ้วมือเสื่อม ในระยะแรกจะมีอาการปวดและชาตามข้อ อาการปวดจะทุเลาไปได้เองภายใน 1 ปีหลังเริ่มมีอาการ และอาจกำเริบซ้ำหากมีการใช้ข้อมากเกิน นอกจากนี้มักเกิดปุ่มกระดูกที่ข้อต่อ เรียกว่า ปุ่มเฮเบอร์เดน (Heberden node) ซึ่งไม่มีอาการเจ็บปวด แต่อาจทำให้จำกัดการเคลื่อนไหวของข้อ และทำให้ดูไม่สวยงาม
    ข้อกระดูกสันหลังเสื่อม จะมีอาการปวดที่ต้นคอหรือปวดหลังตรงกระเบนเหน็บ และอาจมีอาการปวดร้าวลงมาที่แขนหรือขา (ดู "โพรงกระดูกสันหลังแคบ" และ "กระดูกคอเสื่อม")
    ข้อสะโพกเสื่อม มักมีอาการปวดสะโพก อาจปวดร้าวไปที่ขาหนีบ ก้น หรือเข่า เวลายืนหรือเดินนาน ๆ ขึ้นลงบันได และทุเลาเมื่อพัก ข้อสะโพกมีอาการติดขัดขยับได้ไม่เต็มที่
    ข้อเข่าเสื่อม (ซึ่งพบได้บ่อยในผู้หญิงอายุมากกว่า 50 ปี หรือคนอ้วน) อาจมีอาการที่เข่าเพียงข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้างก็ได้ จะมีอาการปวดเข่าเวลาเคลื่อนไหว และทุเลาเมื่อพัก จะปวดมากเวลายืนหรือเดินนาน ๆ เดินขึ้นลงบันได หรือเวลางอเข่า (เช่น นั่งยอง ๆ คุกเข่า พับเพียบ ขัดสมาธิ ซึ่งทำให้ผิวข้อที่ขรุขระเบียดกันมาก เกิดอาการปวดจนบางครั้งไม่สามารถงอเข่าได้) บางครั้งอาจมีอาการปวดที่บริเวณต้นขาและน่อง เนื่องจากกล้ามเนื้อเกร็งตัว เวลาเคลื่อนไหวข้อเข่าจะมีเสียงดังกรอบแกรบ

เนื่องจากมีการเสียดสีของผิวข้อที่ขรุขระ หรือมีอาการติดขัดเนื่องจากปุ่มงอกที่หักหลุดเข้าไปขัดอยู่ในข้อ

ผู้ป่วยมักมีอาการข้อติดข้อแข็งหลังตื่นนอนตอนเช้า หรือนั่งหรือยืนอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ และหลังจากขยับข้อหรือลุกเดินอาการจะทุเลาไปภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที

ระยะแรกจะมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ แล้วค่อย ๆ เป็นมากขึ้น จนในที่สุดจะปวดรุนแรงหรือปวดตลอดเวลา

เมื่อข้อเข่าเสื่อมรุนแรง ผู้ป่วยจะมีอาการขาโก่ง เดินไม่ถนัด เดินคล้ายขาสั้นข้างยาวข้าง เนื่องจากลงน้ำหนักไม่เต็มที่ หรือเอนตัวเพราะเจ็บเข่าข้างหนึ่ง บางรายเดินกะเผลกหรือโยนตัวเอนไปมา หรืออาจงอและเหยียดเข่าลำบาก บางรายอาจมีกล้ามเนื้อขาลีบลง

ในรายที่มีกล้ามเนื้อรอบเข่าอ่อนแรง ก็จะมีอาการเข่าอ่อนเข่าทรุด อาจทำให้พลัดตกหกล้มได้


ภาวะแทรกซ้อน

ในรายที่ข้อกระดูกสันหลังเสื่อมรุนแรง อาจทำให้เกิดโพรงกระดูกสันหลังแคบ หรือกระดูกคองอกกดรากประสาท

ในรายที่ข้อเข่าและข้อสะโพกเสื่อมรุนแรง อาจทำให้เดินไม่ถนัด หรือเข่าอ่อน เข่าทรุด หกล้มได้


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ ดังนี้

ในรายที่เริ่มมีข้อเสื่อมระยะแรก อาจตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน

เมื่อเป็นเรื้อรังมานาน อาจตรวจพบข้อขยับได้ไม่สุดหรือข้อติดขัด เวลาจับข้อ (เข่าหรือสะโพก) โยกไปมาจะได้ยินเสียงดังกรอบแกรบ

อาจพบปุ่มกระดูก (ปุ่มเฮเบอร์เดน) ที่ข้อนิ้วมือหลายนิ้ว หรืออาจคลำได้ปุ่มงอกที่ข้อเข่า

สำหรับข้อเข่าที่เสื่อมรุนแรง อาจพบขาโก่ง 2 ข้าง เดินกะเผลก บางครั้งอาจพบข้อบวมเนื่องจากมีน้ำอยู่ในข้อโดยไม่มีอาการอักเสบแดงร้อนร่วมด้วย (ถ้าข้อมีอาการบวม แดง ร้อน มักเกิดจากสาเหตุอื่น)

สำหรับข้อสะโพกเสื่อม อาจตรวจพบขา 2 ข้างยาวไม่เท่ากัน เนื่องจากข้อข้างที่เสื่อมเคลื่อนหลุดจากเบ้าสะโพก

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการเอกซเรย์ ถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ถ้ามีอาการปวด ให้พักข้อที่ปวด (เช่น อย่าเดินมาก ยืนมาก หรือเดินขึ้นลงบันได นั่งเหยียดเข่าข้างที่ปวด อย่านั่งงอเข่า) และใช้น้ำแข็งหรือน้ำอุ่นจัด ๆ ประคบ ทานวดด้วยยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ถ้ายังปวดให้กินพาราเซตามอลบรรเทาเป็นครั้งคราว

ถ้ามีอาการปวดมาก จะให้กินยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ในขนาดต่ำสุด นาน 3-5 วัน ไม่ควรกินติดต่อกันนาน ๆ และควรระมัดระวังในการใช้ยานี้ในผู้สูงอายุและผู้ที่เป็นโรคแผลเพ็ปติก ถ้าจำเป็นต้องใช้ยากลุ่มนี้ติดต่อกันหลายวัน จะให้ยาป้องกันโรคแผลเพ็ปติก เช่น โอเมพราโซล ครั้งละ 20 มก. วันละ 2 ครั้ง

2. พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้อาการปวดข้อกำเริบ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเข่า) เช่น ห้ามยกของหนัก หรือหาบน้ำ หิ้วน้ำ อย่ายืนนาน อย่านั่งคุกเข่า (นั่งถูพื้นหรือซักผ้า) นั่งพับเพียบ หรือขัดสมาธิ พยายามนั่งบนเก้าอี้หรือนั่งในท่าเหยียดเข่าตรง

เวลาสวดมนต์ ไหว้พระ ฟังเทศน์ หรือประกอบกิจทางศาสนา ควรหลีกเลี่ยงการนั่งงอเข่า ควรนั่งเก้าอี้หรือยืน

ควรหลีกเลี่ยงการนั่งซักผ้าในท่างอเข่า และการนั่งส้วมซึมแบบยอง ๆ ถ้าเป็นไปได้ควรใช้ส้วมชักโครก หรือใช้เก้าอี้เจาะช่องตรงกลางนั่งคร่อมบนส้วมซึม

หลีกเลี่ยงการเดินขึ้นลงบันได* ถ้าเป็นไปได้ควรย้ายห้องนอนลงมาชั้นล่าง

ถ้าพื้นบ้านมีการยกสูงต่างระดับกัน ทำให้เวลาเดินต้องงอเข่ามาก ก็ควรปรับให้เป็นระดับเดียว

ควรเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ เช่น หลังจากนั่งทำงานนาน 1 ชั่วโมงควรพัก และลุกขึ้นเดินสัก 2-3 นาที หรือหลังจากยืนนาน ๆ ก็ควรนั่งพักสักครู่สลับกัน

ถ้าน้ำหนักมาก ควรลดน้ำหนักซึ่งจะช่วยให้อาการปวดทุเลาได้มาก

ในรายที่มีข้อเข่าหรือข้อสะโพกเสื่อม เวลาเดินควรใส่รองเท้าที่มีคุณสมบัติลดแรงกระแทกเพื่อลดการบาดเจ็บต่อข้อ

3. พยายามบริหารกล้ามเนื้อที่เคลื่อนไหวข้อให้แข็งแรง เช่น ถ้าปวดหลังก็ให้บริหารกล้ามเนื้อหลัง (ดู "โรคปวดกล้ามเนื้อหลัง") ถ้าปวดเข่าก็บริหารกล้ามเนื้อต้นขาส่วนหน้า

การฝึกกล้ามเนื้อควรเริ่มทำเมื่ออาการปวดทุเลาลงแล้ว ระยะแรกฝึกวันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 5-10 นาที จนรู้สึกกล้ามเนื้อแข็งแรงไม่เมื่อยง่าย จึงเพิ่มเป็นวันละ 3-5 ครั้ง

การบริหารกล้ามเนื้อเข่า เริ่มแรกไม่ต้องถ่วงด้วยน้ำหนัก ต่อไปค่อย ๆ ถ่วงน้ำหนัก (เช่น ถุงทรายหรือขวดน้ำใส่ถุงพลาสติกที่มีหูหิ้ว) ที่ข้อเท้าทีละน้อย จาก 0.3 กก. เป็น 0.5 กก. 0.7 กก. และ 1 กก. โดยเพิ่มไปเรื่อย ๆ ทุก 2-3 สัปดาห์ จนยกได้ 2-3 กก. ข้อเข่าก็จะแข็งแรงและลดอาการปวด ควรทำเป็นประจำทุกวัน
 

4. ผู้ป่วยที่มีอาการปวดเข่ามากหรือบ่อย หรือมีอาการเข่าอ่อน เข่าทรุด ควรใช้ไม้เท้า เครื่องพยุงหรือกายอุปกรณ์ช่วยเดิน และสร้างราวเกาะในบ้านและในห้องน้ำ เพื่อใช้เกาะเดินและพยุงตัวป้องกันการหกล้ม

5. ถ้าอาการไม่ดีขึ้นใน 3-4 สัปดาห์ หรือบวมตามข้อ หรือมีอาการปวดร้าวหรือชาตามแขน (ร่วมกับปวดคอ) หรือขา (ร่วมกับปวดหลัง) จะทำการตรวจโดยการเอกซเรย์ดูการเปลี่ยนแปลงของข้อ หากสงสัยว่าเกิดจากโรคอื่น อาจต้องทำการตรวจเลือด และตรวจพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติม

ในรายที่ปวดรุนแรง แพทย์อาจให้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ ถ้ามีข้อห้ามใช้ยากลุ่มนี้แพทย์อาจให้ยาบรรเทาปวดอื่น ๆ เช่น ทรามาดอล อะมิทริปไทลีน เพื่อบรรเทาปวด

ในรายที่มีอาการข้อบวม แพทย์จะทำการดูดน้ำในข้อออก และอาจพิจารณาฉีดสเตียรอยด์เข้าในข้อเป็นครั้งคราว สามารถฉีดซ้ำได้ทุก 4-6 เดือน (ไม่ควรเกินปีละ 2-3 ครั้ง อาจทำให้กระดูกเสื่อมหรือสลายตัวเร็วขึ้น)

นอกจากนี้ แพทย์อาจให้การรักษาอื่น ๆ เช่น การทำกายภาพบำบัด, การฝังเข็ม, การให้กินยากลูโคซามีน (glucosamine) ซึ่งมีฤทธิ์ในการกระตุ้นการสร้างกระดูกอ่อนที่ผิวข้อ, การฉีดสารไฮยาลูโรเนต (hyaluronate ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในน้ำในข้อ) เข้าในข้อ 1 ครั้ง/สัปดาห์ จำนวน 3-5 ครั้ง

วิธีเหล่านี้มีส่วนในการบรรเทาอาการปวดข้อ แต่มักจะกำเริบอีก และอาจต้องให้การรักษาเป็นระยะ ๆ ตามความรุนแรงของโรค

ในรายที่มีข้อเข่าเสื่อมรุนแรง จนไม่สามารถทำงานหรือทำกิจวัตรประจำวันได้เป็นปกติ หรือข้อเข่าผิดรูป เช่น ขาโก่ง โค้งงอ ซึ่งการรักษาด้วยวิธีใช้ยาต่าง ๆ ไม่ได้ผล แพทย์จะพิจารณาทำการผ่าตัดซึ่งมีอยู่หลายวิธี ซึ่งแพทย์จะเลือกให้เหมาะกับอายุ ความรุนแรง และลักษณะการใช้งานข้อเข่า เช่น การผ่าตัดโดยการใช้กล่องส่องเพื่อล้างข้อและซ่อมแซมผิวข้อ (arthroscopic larvage and debridement) ในผู้ป่วยที่เข่าเสื่อมไม่มาก, การผ่าตัดจัดแนวรับน้ำหนักของข้อเข่าใหม่ (osteotomy) ในผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 60 ปีที่ข้อเข่าผิดรูป, การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม (joint replacement) ซึ่งนิยมทำในผู้ป่วยที่ข้อเข่าเสื่อมรุนแรงหรือผิดรูปมาก

สำหรับข้อสะโพกเสื่อมก็มีการผ่าตัดจัดแนวรับน้ำหนักใหม่ และการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมช่วยให้ผู้ป่วยหายปวด สามารถเคลื่อนไหวข้อและเดินได้เป็นปกติ ในปัจจุบันมีการพัฒนาข้อเข่าเทียมที่สามารถงอเหยียด และเคลื่อนไหวข้อเข่าได้ใกล้เคียงกับข้อเข่าจริง ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีเหมือนคนที่แข็งแรงทั่วไป

อย่างไรก็ตาม ก็ต้องระวังดูแลข้อเข่าเทียม โดยไม่ใช้งานหนักเกิน หลีกเลี่ยงการยกของหนักเป็นเวลานาน ๆ การแบกหาม การเดินไกล ๆ และการงอเข่ามาก ๆ และควรควบคุมน้ำหนัก มิเช่นนั้นข้อเข่าเทียมก็อาจชำรุดและใช้งานไม่ได้ในเวลาที่สั้นกว่าควรจะเป็น (ปกติข้อเข่าเทียมมีอายุการใช้งานประมาณ 8-15 ปี)

*หากจำเป็นต้องขึ้นลงบันได สำหรับผู้ที่มีอาการปวดเข่าข้างเดียว เวลาเดินขึ้นบันได ให้เดินขึ้นทีละขั้น โดยก้าวขาข้างที่ปกติขึ้นก่อน แล้วยกขาข้างที่ปวดขึ้นตามไปวางบนขั้นที่ขาปกติวางอยู่ อย่าก้าวข้ามไปอีกขั้นหนึ่ง ส่วนขาลง ก็ก้าวขาข้างที่ปวดลงก่อน แล้วก้าวขาข้างที่ปกติตาม การก้าวขึ้นลงบันไดทีละขั้นแบบนี้ ขาข้างที่ปวดจะไม่มีการงอเข่า จึงลดอาการปวดลงได้


การดูแลตนเอง

ถ้ามั่นใจ หรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นข้อเข่าเสื่อม ควรดูแลตนเอง ดังนี้   

    กินยาบรรเทาปวดตามคำแนะนำของแพทย์
    ใช้น้ำอุ่นจัด ๆ หรือน้ำแข็งประคบ
    หลีกเลี่ยงอิริยาบถที่ทำให้ปวดข้อ (เช่น นั่งงอเข่า เดินขึ้นลงบันได หรือบนพื้นต่างระดับ)
    บริหารกล้ามเนื้อรอบ ๆ ข้อให้แข็งแรง
    ลดน้ำหนักถ้าน้ำหนักเกินหรืออ้วน
    หลีกเลี่ยงการซื้อยาชุดหรือยาลูกกลอนมาใช้เอง เนื่องจากมักมียาสเตียรอยด์ผสม เมื่อกินแล้วจะรู้สึกดี ทำให้ต้องกินติดต่อกันนาน ๆ จนอาจเกิดผลข้างเคียงร้ายแรงจากสเตียรอยด์

ควรปรึกษาแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้

    มีอาการไข้สูง ปวดข้อมาก หรือข้อมีลักษณะบวมหรืออักเสบ (บวมแดงร้อน)
    มีอาการเดินไม่ถนัด
    ดูแลตนเอง 1-2 สัปดาห์แล้วไม่ทุเลา หรือเป็น ๆ หาย ๆ บ่อย
    หลังกินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระดำ ท้องเดิน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ
    มีความวิตกกังวล หรือไม่มั่นใจที่จะดูแลตนเอง


การป้องกัน

สำหรับข้อเข่าเสื่อม อาจลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ได้โดย

1. ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ อย่าปล่อยให้มีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคนี้

2. หลีกเลี่ยงการนั่งงอเข่านาน ๆ และการยกหรือหาบของหนักเป็นประจำ

3. บริหารกล้ามเนื้อรอบเข่าให้แข็งแรง

4. ออกกำลังกายที่ไม่ลงน้ำหนักมาก เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน เป็นต้น และรู้จักป้องกันไม่ให้ข้อบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย เช่น มีการอุ่นเครื่อง (วอร์มอัป) และผ่อนคลายร่างกาย (คูลดาวน์) ก่อนและหลังออกกำลังกาย ใส่รองเท้าที่ลดแรงกระแทก หลีกเลี่ยงการวิ่งบนพื้นที่แข็ง เป็นต้น


ข้อแนะนำ

1. โรคข้อเสื่อมแม้ว่าจะพบบ่อยในผู้สูงอายุ ปัจจุบันเชื่อว่ามีปัจจัยที่ทำให้ข้อเสื่อมร่วมกันหลายประการ ไม่ใช่เกิดจากการใช้งานมากหรือเสื่อมตามอายุเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ผู้ที่มีภาวะข้อเสื่อมจำนวนไม่น้อย (ซึ่งตรวจพบจากภาพถ่ายรังสี) จะไม่มีอาการแสดง ซึ่งไม่จำเป็นต้องให้การรักษาใด ๆ

2. โรคนี้จะเป็นเรื้อรังตลอดไป ซึ่งจะมีอาการค่อยเป็นค่อยไปเป็นเวลาหลายปี และถ้าขาดการดูแลรักษาก็จะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนมีอาการปวดรุนแรงหรือปวดตลอดเวลา หรือข้อผิดรูป

3. ยาที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นยาบรรเทาอาการปวด ไม่ใช่ยารักษาเฉพาะ (ไม่ได้ช่วยให้ข้อที่เสื่อมฟื้นคืนปกติ) ควรเริ่มใช้ยาทาแก้ปวดข้อดูก่อน ถ้าไม่ได้ผลใช้พาราเซตามอลเป็นครั้งคราวเฉพาะเวลามีอาการปวด ถ้าไม่ได้ผลจึงเปลี่ยนเป็นยาบรรเทาปวดอื่น ๆ เช่น ทรามาดอล อะมิทริปไทลีน เป็นต้น

4. ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ แพทย์จะใช้ยากลุ่มนี้ในรายที่อาการปวดรุนแรงหรือใช้ยาอื่นไม่ได้ผล และไม่ควรใช้ติดต่อกันนาน อาจมีผลข้างเคียงร้ายแรงได้ เช่น แผลเพ็ปติก เลือดออกในกระเพาะ ไตวาย

ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ชนิดฉีดโดยไม่จำเป็น เพราะอาจทำให้เกิดภาวะช็อกจากปฏิกิริยาอะไฟแล็กตอยด์ (anaphylactoid reaction) หรือการติดเชื้อที่กล้ามเนื้อและเส้นเอ็น (myofasciitis) ได้

5. ผู้ป่วยสามารถออกกำลังกายที่ไม่ลงน้ำหนักมาก เช่น เดินเร็ว ๆ ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน รำมวยจีน ฝึกโยคะเป็นต้น แต่ควรใส่รองเท้าที่มีคุณสมบัติลดแรงกระแทก

12
Doctor At Home: หนองในเทียม (Nonspecific urethritis/NSU/Nongonococcal urethritis/NGU)

หนองในเทียม เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยรองจากหนองในและซิฟิลิส โดยจะมีอาการคล้ายหนองใน ซึ่งเกิดจากเชื้อชนิดอื่น

สาเหตุ

เชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคหนองในเทียมมีได้หลายชนิด อาจเป็นเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส โปรโตซัวหรือเชื้อราก็ได้ ประมาณร้อยละ 20 ของผู้ป่วยโรคนี้ยังไม่ทราบเชื้อที่เป็นสาเหตุแน่ชัด ประมาณร้อยละ 40 เกิดจากคลามีเดียทราโคมาติส (Chlamydia trachomatis) ซึ่งเป็นแบคทีเรีย (เชื้อนี้มีพันธุ์ย่อยอีกหลายชนิด ซึ่งบางชนิดทำให้เป็นฝีมะม่วง) ประมาณร้อยละ 30 เกิดจากเชื้อยูเรียพลาสมายูเรียไลทิคัม (Ureaplasma urealyticum)

นอกนั้นอาจเกิดจากเชื้ออื่น ๆ เช่น เชื้อโปรโตซัวที่มีชื่อว่า ทริโคโมเเนสวาจินาลิส (Trichomanas vaginalis) เชื้อไวรัสเริม เป็นต้น

ระยะฟักตัว ประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรือนานกว่า


อาการ

ในผู้ชาย อาการมักเกิดหลังติดเชื้อประมาณ 1-4 สัปดาห์ โดยมีอาการแสบที่ปลายท่อปัสสาวะ ปัสสาวะขัดและมีหนองไหล ซึ่งลักษณะเป็นมูกใสหรือมูกขุ่น ๆ ไม่เป็นหนองข้นแบบหนองใน และออกซึมเพียงเล็กน้อย ไม่ออกมากแบบหนองใน บางรายในระยะแรกอาจสังเกตมีอาการแสบที่ท่อปัสสาวะ และมีมูกออกเล็กน้อยเฉพาะในช่วงเช้าเท่านั้น

ถ้าให้ผู้ป่วยถ่ายปัสสาวะลงในแก้วใส แล้วใช้ไฟฉายส่องดู จะเห็นเส้นขาว ๆ คล้ายเส้นด้ายลอยอยู่

ถ้าไม่ได้รับการรักษา อาการอาจเรื้อรังเป็นแรมเดือนแรมปี

ในผู้หญิง ส่วนมากมักไม่มีอาการแสดง ส่วนน้อยอาจมีอาการตกขาว (ตรวจอาการตกขาว/คันในช่องคลอด)


ภาวะแทรกซ้อน

ในผู้ชาย อาจทำให้ท่อปัสสาวะตีบ ต่อมลูกหมากอักเสบ อัณฑะอักเสบ

ในผู้หญิง อาจทำให้เยื่อบุมดลูกอักเสบ ปีกมดลูกอักเสบ เป็นหมัน

นอกจากนี้ ทั้งสองเพศอาจทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เยื่อบุหัวใจอักเสบได้ แต่พบได้น้อยมาก

บางรายอาจเกิดกลุ่มอาการไรเตอร์ (Reiter’s syndrome) ซึ่งจะมีอาการหนองไหลจากท่อปัสสาวะร่วมกับข้ออักเสบและเยื่อตาขาวอักเสบ

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากอาการ ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจร่างกาย ซึ่งมีสิ่งตรวจพบ ดังนี้

มีหนองไหลออกจากท่อปัสสาวะ ซึ่งลักษณะเป็นมูกใสหรือมูกขุ่น ๆ

แพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัด โดยการนำหนองไปย้อมสี และส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ หรือนำไปเพาะเชื้อ

การรักษาโดยแพทย์

นอกจากแนะนำการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยแล้ว แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะขนานใดขนานหนึ่ง เช่น

    ดอกซีไซคลีน กินครั้งละ 100 มก. วันละ 2 ครั้ง นาน 1-2 สัปดาห์
    เตตราไซคลีน กินครั้งละ 500 มก. วันละ 4 ครั้ง นาน 14 วัน
    อีริโทรไมซิน กินครั้งละ 500 มก. วันละ 4 ครั้ง นาน 14 วัน
    ร็อกซิโทรไมซิน กินครั้งละ 150 มก. วันละ 2 ครั้ง นาน 1-2 สัปดาห์
    อะซิโทรไมซิน 1 กรัม กินครั้งเดียว
    ไมโนไมซิน (minomycin ซึ่งเป็นยาในกลุ่มเตตราไซคลีน) กินครั้งละ 100 มก. วันละครั้ง นาน 14 วัน


สำหรับหญิงตั้งครรภ์ แพทย์จะหลีกเลี่ยงกลุ่มยาเตตราไซคลีน (ได้แก่ ดอกซีไซคลีน เตตราไซคลีน ไมโนไมซิน)

ผลการรักษา หลังให้ยาปฏิชีวนะ มักจะหายเป็นปกติได้ใน 1-2 สัปดาห์

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีหนองไหลจากท่อปัสสาวะ ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นหนองในเทียม ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ 
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    งดดื่มเหล้า และงดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าจะหาย


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลา 
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    มีอาการที่สงสัยว่าเป็นผลข้างเคียงจากยาหรือแพ้ยา

การป้องกัน

หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ถ้าจะหลับนอนกับผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ควรใช้ถุงยางอนามัย และฟอกล้างสบู่ทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์

ข้อแนะนำ

1. ผู้ป่วยควรเจาะเลือดตรวจวีดีอาร์แอลและเชื้อเอชไอวี (เลือดบวก) ตั้งแต่ก่อนรักษาครั้งหนึ่ง และอีก 3 เดือนต่อมาตรวจอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้ติดโรคซิฟิลิสหรือเชื้อเอชไอวีร่วมด้วย

2. โรคหนองในเทียมอาจเป็นเรื้อรังและรักษายากกว่าหนองใน เนื่องจากส่วนใหญ่จะตรวจไม่พบเชื้อที่เป็นสาเหตุ แต่โรคหนองในเทียมที่เกิดจากเชื้อคลามีเดียมีทางรักษาให้หายขาดได้ภายใน 14 วัน ในรายที่ไม่ได้รับการรักษาร้อยละ 20-30 อาจหายได้เองภายใน 1-3 สัปดาห์ และร้อยละ 60 จะหายได้ภายใน 8 สัปดาห์

3. ทารกที่เกิดจากมารดาที่เป็นหนองในเทียมจากเชื้อคลามีเดียอาจได้รับเชื้อระหว่างคลอด ทำให้เกิดอาการตาอักเสบหลังคลอดประมาณ 5-14 วัน แต่อาการมักจะรุนแรงน้อยกว่าตาอักเสบจากเชื้อหนองใน การรักษาให้ใช้ยาป้ายตาเตตราไซคลีน ป้ายวันละ 4 ครั้ง และให้อีริโทรไมซินในขนาด 30 มก./กก./วัน นาน 21 วัน

4. ควรแนะนำให้ผู้สัมผัสโรคไปตรวจรักษาโรคนี้พร้อม ๆ กันไปด้วย

13
“สร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน” สไตล์ครูแมกซ์

จุดเริ่มต้นเพียงแค่ไม่มีใจรักการเป็นลูกน้อง และไม่ชอบการทำงานในองค์กร บวกกับมีความตั้งใจที่ว่า อยากฝึกทักษะการทำอาหารไว้ทำให้คุณพ่อคุณแม่ทานตอนท่านแก่
พร้อมกับคำพูดของคุณแม่ที่ชอบบอกว่า “การขายของมันได้จับเงินทุกวัน” นั่นคือจุดตัดสินใจ

ครูแมกซ์
จุดเริ่มต้นง่ายๆก็เริ่มจากการเรียนรู้จากคุณแม่ของครูแมกซ์เอง ท่านเป็นคนทำอาหารไทยอร่อย และเคยเปิดร้านอาหารมาก่อนตอนครูแมกซ์เด็กๆ
โดยใช้การถาม สังเกตอย่างละเอียด และฝึกชิมรสชาติของอาหารที่แท้จริง (เพราะคุณแม่ไม่เคยชั่งตวงวัดแม่บอกชิมให้เป็นไม่ต้องมาถามสูตร555)

ร่วมกับการเรียนรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เช่น ยูทูป ดูทุกวันตลอดระยะเวลา 8-10ปี พร้อมกับการซื้อวัตถุดิบมาลงมือทำจริง ชิมจริง ทำให้คคุณแม่ทานจริง

ครูแมกซ์
จนถึงจุดที่มั่นใจแล้วว่า…จะทำอาหารเพื่อสร้างรายได้เริ่มง่ายๆจากครัวที่บ้าน
จากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา15ปี ที่ครูแมกซ์มีรายได้จากอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการยืนขายสลัดริมถนนหน้าตึกชาญอิสะ2 เปิดรับออเดอร์ลุกค้าในหมู่บ้าน การพรีออเดอร์ผ่านทางโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการออกบูทตามห้างดังต่างๆ

ทั้งหมดนี้ผ่านการทำจริง ได้ผลลัพธ์จริงมาทั้งหมดแล้วด้วยตัวครูแมกซ์เองคนเดียว (แบบไม่เลือกการมีลูกน้อง)

จึงมั่นใจมากว่าจากประสบการณ์ทั้งหมดที่ครูแมกซ์สั่งสมมาตลอดจนถึงวันนี้

ไข่เจียว
ครูแมกซ์ได้พิสูจน์แล้วว่า…การสร้างเงินแสนจากครัวที่บ้าน “มันทำได้จริง”
ครูแมกซ์ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดทุกสูตรลัด แบไต๋ทุกเคล็ดลับให้คุณแบบหมดเปลือก!!  !!ความตั้งใจนั้นมันก็ได้เกิด”ผลลัพธ์”กับลูกศิษย์ครูแมกซ์เรียบร้อยแล้ว

📌น้องมิ้นท์ นักเรียนคอร์สไพรเวทจับมือทำรอบสด
ลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านขายอาหาร หลังจากเรียนกับครูแมกซ์ไปเพียงแค่3วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับพรีออเดอร์จากอาพาร์ทเมนต์ (โดยมีครูแมกซ์เป็นที่ปรึกษาตลอด1เดือนเต็ม) เริ่มจากเมนูง่ายๆที่ครูแมกซ์เลือกให้เป็นเมนูประจำร้าน คือ “เมนูไข่ฟูหมูฉ่ำนัว”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายเดือนกุมภาพันธ์ 68
สรุปได้ยอดขาย 60,000 บาท (ทำด้วยตัวคนเดียว)

📌น้องเติ๊ด นักเรียนคอร์สออนไลน์
เป็นพนักงานประจำหัวหน้าแผนกHR อยากหาอาชีพเสริมเพื่อวางแผนลาออกจากงานประจำ หลังจากเรียนคอร์สครูแมกซ์ภายใน 7 วัน น้องได้จับเงินบาทแรกจากอาหารทันที!!
โดยเปิดรับออเดอร์ที่คอนโด เริ่มจากเมนูง่ายๆที่เรียนจากคอร์สสูตรกะเพรา กับ คอร์ส10เมนูไข่ทำง่ายรายได้ปัง เมนูประจำร้าน คือ “เมนูข้าวไข่เจียว ไข่ข้น”

‼️ล่าสุดเพียงแค่ 2เดือน ยอดขายได้มากกว่าเงินเดือนประจำเป็นที่เรียนร้อยแล้ว พร้อมกับยื่นใบลาออก (แต่นายยังไม่อนุมัติ)
วิธีขายอาหารจากครัวของคุณสามารถให้ผลตอบแทนและกำไรได้ กุญแจสู่ความสำเร็จในการขายอาหารจากครัวในบ้านของคุณ
สนใจติดต่อสอบถามข้อมูล
ไลน์ ID  :  @krumax
Page FB : https://web.facebook.com/profile.php?id=61569480015186
เว็บไซด์ : https://krumax.net/krumaxcourse/
เบอร์โทร : 081-413-4479


14
รถรับจ้างย้ายบ้าน รถรับจ้างขนของ สมุทรปราการ รถรับจ้างที่ดีที่สุด ใกล้ฉันและราคาถูก

รถรับจ้างขนของ สมุทรปราการ

บริการอย่างไรจึงมีคนสนใจและเรียกใช้บริการ รถรับจ้างขนของ สมุทรปราการ มากที่สุด ด้วยการขนย้ายที่มีความมีมาตรฐาน ขนย้ายที่ตรงเวลา ขนย้ายอย่างชาญฉลาด ขนย้ายของได้หมดต่อเที่ยว และราคาที่ไม่แพง จึงยึดครองใจของคนสมุทรปราการได้เป็นอย่างดี งานบริการที่รับจ้างมานานกว่า 15ปี มีจุดเด่นที่ ขนย้ายแล้วสินค้าปลอดภัย รับประกันสินค้า และมีคนยกของให้ตลอดเวลา มีความรวดเร็ว เข้าใจในเนื้องาน จนคนที่มาใช้บริการมีความชื่นชมและอยากกลับมาใช้บริการซ้ำอีกหลายเที่ยว รถรับจ้างขนของ สมุทรปราการ มีรถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถเฮี๊ยบรับจ้าง รถ4ล้อใหญ่รับจ้าง รถขนของย้ายบ้าน ฯ ตรวจสอบราคาได้ 24 ชม.

   
รถรับจ้างขนของ ชลบุรี

รถรับจ้างขนของ ชลบุรี จังหวัดนี้มีรถขนของที่มากมายไม่ว่าจะไปที่ไหนในทุกเขตอำเภอก็จะเจอ รถรับจ้างขนของ ชลบุรี เต็มไปหมด เพราะมีงานขนย้ายที่มากมายและงานขนย้ายแต่ละอย่างต่างต้องการรถรับจ้างพร้อมคนยกเป็นส่วนมาก เราจะสังเกตุเห็นได้จาก เขตพัทยา บางแสน ศรีราชา เมืองชล มีการเรียกใช้รถรับจ้างขนของ ชลบุรี ในการ ขนของย้ายบ้าน ย้ายหอพัก และ ย้ายเฟอร์นิเจอร์ ทั่วไปมากมาย บริการของเขามีความปลอดภัย ของไม่หาย มีรับประกันการขนย้ายและกล้าการันตีได้เลยว่า รถรับจ้างขนของ ชลบุรี ทุกคัน เขาบริการมืออาชีพ ราคาไม่แพงใกล้ๆตัวคุณ


รถกระบะรับจ้างขนของ สมุทรปราการ

รถกระบะรับจ้างขนของ สมุทรปราการ เขามีรถกระบะแบบตอนเดียวและแบบแค็บ โดยการใช้งานก็จะต่างกันนิดหน่อย ถ้าเน้นเรื่องการขนย้ายของให้ได้มากๆ เเนะนำว่า รถกระบะรับจ้างขนของแบบตอนเดียว ตู้ทึบ จะมีความเหมาะสมมาก สูง 2.10 เมตร ขนย้ายของได้เยอะ
แต่ถ้าหากต้องการติดรถไปด้วย รถกระบะรับจ้างขนของแบบแค็บ จะมีความเหมาะสมมากกว่า จะทำให้คุณนั่งด้านหน้าได้อย่างสบาย และประหยัดค่าใช้จ่ายได้เพราะไม่ต้องไปจ้างรถขนส่งมวลชลเพื่อเดินทางกลับ คุณติดรถรับจ้างไปได้เลยทันที

   
รถรับจ้างขนของ ใกล้ฉัน

คำว่า รถรับจ้างขนของ ใกล้ฉัน นั่นคือใกล้แค่ไหน คำจำกัดความของงานบริการคือจ้างรถรับจ้างขนของยังไงก็ได้ที่รถรับจ้างคันนั้นสามารถที่จะวิ่งมารับสินค้าหรือขนย้ายของได้ภายใน 3 ชั่วโมงหรือในช่วงที่เราเป็นคนกำหนดได้
รถรับจ้างขนของ ใกล้ฉัน ส่วนมากแล้วจะเป็น รถกระบะรับจ้าง และ รถหกล้อรับจ้าง เพราะเป็นรถรับจ้างที่มีปริมาณเยอะที่สุดและสามารถขนย้ายของให้คุณโดยใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการวิ่งไปถึงหน้างาน มีการรับประกันสินค้าด้วยจะยิ่งดีมากเลยทีเดียว

   
รถรับจ้างขนของ ไปต่างจังหวัด

เมื่อเราจะขนย้ายของไปต่างจังหวัด สิ่งที่เราจะต้องนึกถึงสิ่งที่มีความจำเป็นมีอะไรบ้างและ รถรับจ้างขนของ ไปต่างจังหวัด เขาจะต้องมีการรับประกันอะไรให้กับเราได้บ้าง โดยส่วนมากแล้วเมื่อขนย้ายของไปที่ไกลๆไปต่างจังหวัด เขามักจะต้องมีการแพ็คสินค้าให้ดีๆ มีการบรรจุลงกล่อง มีการรัดมัดสินค้าให้มีความแข็งแรงไม่กระดุกกระดิกได้ ใส่แผ่นรองกันกระแทก เป็นต้น
เพราะการขนย้ายไปต่างจังหวัดด้วยระยะทางที่ไกลมากๆ ทำให้ต้องมีความระวังเกี่ยวกับความสูญเสียหรือแตกหักสินค้าให้ดีที่สุด เราจึงต้องมีพนักงานขับรถรับจ้างที่มีความใจเย็น ใช้ความเร็วที่จำกัด มีพนักงานยกของที่เก่งและมืออาชีพจัดวางเรียงของให้ปลอดภัย และที่สำคัญมีการประกันสินค้าเสียหายด้วยจะถือว่าดีมากๆ


รถ 6 ล้อรับจ้าง สมุทรปราการ

ขนเยอะ ขนมาก รถ 6 ล้อรับจ้าง สมุทรปราการ ตอบโจทย์ดีที่สุดด้วยขนาดรถที่มีขนาดใหญ่และที่สำคัญมีผ้าใบคลุมทั้งคันป้องกันของตกหล่นหรือเวลาฝนตกก็ไม่เปียก ซึ่งรถหกล้อรับจ้างแบบนี้ถือเป็นข้อดีที่มีความสำคัญมากในการย้ายของ ถ้าหากเราต้องขนของย้ายบ้าน ย้ายเฟอร์นิเจอร์ โดยที่เราไม่อยากให้โดนฝนโดนฝุ่น รถ 6 ล้อรับจ้าง สมุทรปราการ แบบนี้ถือว่าเหมาะมากจริงๆ ส่วนเรื่องราคาให้หารถรับจ้างที่อยู่บริเวณแถวใกล้ๆยิ่งจะทำให้ราคาถูกลงไปด้วย

   
รถรับจ้าง บางนา

บางนาถือว่าเป็นเขตพื้นที่ที่ถ้าคุณมาจากภาคตะวันออกหรือจะเดินทางเข้า กทม ต้องผ่านบางนาอย่างแน่นอน เพราะที่นี่เขามีการบริการรับจ้างขนของมากมายและยังมีความพร้อมในเรื่องของการช่วยขนย้ายยกของให้ด้วย การขนย้ายก็จะมีทั้ง ขนย้ายบ้านบางนา ย้ายหอพักแถวบางนา ย้ายคอนโดบางนา ย้ายหอติดรถไฟฟ้า รับจ้างขนย้ายของทั่วไปบางนา เป็นต้น
ถ้าต้องการ รถรับจ้าง บางนา ที่บริการดีและคุ้มเงินที่จ่ายลองหารถรับจ้างในพื้นที่บางนาหรืออยู่ใกล้ๆอย่างขนส่ง หรือ รถรับจ้างอย่าง 4ล้อใหญ่รับจ้างบางนา รถกระบะรับจ้างบางนา รถหกล้อรับจ้าง บางนา บริการที่พร้อมคนยกและมีประสบการณืมาอย่างมากมายในการขนย้ายของ

   
รถรับจ้างทั่วไป บางพลี

ในเขตพื้นที่บางพลี ทั้งบางพลีใหม่ บางพลีเก่า ที่นี่มีโรงงานเล็ก-ใหญ่มากมาย มีรถรับจ้างที่คอยวิ่งไปให้บริการ เช่น รถกระบะรับจ้าง รถหกล้อรับจ้าง รถ4ล้อใหญ่รับจ้าง รถ10ล้อรับจ้าง รถเทรลเลอร์รับจ้าง รถเฮี๊ยบรับจ้าง บางพลี ซึ่งรถรับจ้างทั้งหมดนี้มีงานวิ่งอยู่ทุกวันตลอดเวลา ไม่ได้ขาด เกิดการจ้างงานมากมายบ่อยครั้ง ต้องการ รถรับจ้างทั่วไป บางพลี สามารถหารถขนของได้ง่ายๆแค่ค้นหารถรับจ้างบางพลีขนส่งก็สามารถเจอได้เช่นเดียวกัน

   
รถขนของย้ายบ้าน สมุทรปราการ

คงปฏิเสธไม่ได้แน่ๆว่าเมื่อเราต้องการขนย้ายบ้านไปที่อื่น ต่างจังหวัดหรือในพื้นที่ใกล้ๆฉัน รถขนของย้ายบ้าน สมุทรปราการ ถือว่ามีบทบาทสำคัญมาก ทั้งในเรื่องของการให้บริการรับจ้างขน และ คนยกสินค้าที่ให้บริการช่วยยก-ลงของให้กับลูกค้า จึงทำให้ รถขนของย้ายบ้าน สมุทรปราการ ในเขตนี้มีทั้งรถขนาดเล็กและใหญ่ปะปนกันไป ที่สำคัญการขนย้ายบ้านของผู้ให้บริการจะมีการรับประกันสินค้าให้ด้วย เพื่อให้ท่านสบายในในการขนย้ายของในทุกๆครั้งด้วย

   
รถรับจ้างขนของใกล้ฉัน สมุทรปราการ

รถรับจ้าง รถขนของในทุกวันนี้มีการให้บริการที่สมัยใหม่มากขึ้น มีความรับผิดชอบและมีการช่วยเหลือลูกค้าในการขนย้ายของที่ดีและครบวงจรมาก ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับลูกค้าที่ต้องการจะจ้าง รถรับจ้างขนของใกล้ฉัน สมุทรปราการ โดยที่เราไม่ต้องไปดิ้นรนหารถรับจ้างที่ยุ่งยากเหมือนในสมัยก่อน ปัจจุบันนี้เพียงคุณมีแค่มือถือเครื่องเดียว ฏ้สามารถหา รถรับจ้างขนของใกล้ฉัน สมุทรปราการ ได้ทุกรายทุกเจ้าและสามารถโทรหาและตรวจสอบราคาค่าจ้างได้เลยทันที ไม่ต้องรอ

   
ขนของย้ายหอ สมุทรปราการ

การจะจ้างรถ ขนของย้ายหอ สมุทรปราการ เราต้องคำนวณให้ดีๆว่าเรามีของที่จะขนย้ายมีอะไรบ้าง ซึ่งโดยส่วนมากก็จะเป็น เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า ทีวี ตู้เย็น มอเตอร์ไซค์ เสื้อผ้า หนังสือ เป็นต้น ซึ่งของเหล่านี้จะต้องมีสินค้าบางรายการที่จำเป็นต้องแพ็คของอย่างดีลงกล่อง บางสินค้าก็ไม่จำเป็นต้องแพ็ค บางรายการต้องถอดประกอบ เช่น ตู้เสื้อผ้า เตียงนอน หากเราจะจ้างรถ ขนของย้ายหอ สมุทรปราการ ถ้าต้องการอยากได้รถขนของขนาดเล็กเช่น รถกระบะรับจ้างขนของย้ายหอ เราก็ควรที่จะจัดเรียงของให้ดีหรือถอดประกอบเพื่อให้ขนย้ายได้ในปริมาณที่มากๆ

   
รถรับจ้างสมุทรปราการ ราคาถูก

หากเรามีงบที่จำกัดหรือต้องการอยากจะได้ รถรับจ้างสมุทรปราการ ราคาถูก เราต้องดูว่าเงินที่มีนั้นสามารถจ้างรถขนของได้คันเล็กหรือใหญ่ หากขนาดใหญ่คงไม่ใช่ปัญหาแต่ถ้าขนาดเล็ก อาจจะต้องมาพิจารณาเรืองสินค้าที่จะขนไปนั้นมีความสำคัญมากแค่ไหน หากไม่จำเป็นมากเราอาจจะไม่ขนไป เอาไปบริจาคดีกว่า ทำให้ประหยัดพื้นที่และสามารถใช้ รถรับจ้างสมุทรปราการ ราคาถูกได้ ในงบประมาณที่เรากำหนด

   
รถขนของย้ายบ้าน ไปต่างจังหวัด

ไม่ว่าจังหวัดไหนๆ ก็ควรจะมี รถขนของย้ายบ้าน ไปต่างจังหวัด คอยให้บริการอยู่เสมอๆ จะภาคไหนๆก็ตาม รถรับจ้างย้ายบ้านมีส่วนสำคัญมากและรถรับจ้างขนของส่วนมากก็มัจะเป็น รถ6ล้อรับจ้างย้ายบ้าน เพราะมีขนาดที่ใหญ่ บรรจุของได้มาก ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับรถรับจ้างที่มีขนาดใกล้เคียงกัน และอีกอย่างการขนของไปต่างจังหวัด รถรับจ้างควรจะเป็นรถที่แข็งเรง มีขนาดใหญ่ วิ่งทางไกลได้อย่างไม่มีปัญหา

15
รถรับจ้างขนของ รถกระบะกับหกล้อ ในจังหวัดอุดรธานี อันไหนหาง่ายกว่ากัน?

จังหวัดอุดรธานี เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีพื้นที่กว้างขวางและเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเกษตรกรรม การค้า และการขนส่ง ดังนั้นยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทางและขนส่งสินค้าจึงมีบทบาทสำคัญ ทางเราขออธิบายอย่างนี้นะคะ รถกระบะ และ รถบรรทุกหกล้อ เป็นยานพาหนะที่ได้รับความนิยมในพื้นที่นี้เป็นอย่างมาก แต่เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันแล้ว ลองมาดูกันว่ารถประเภทใดนั้นหาง่ายกว่ากันค่ะ

การใช้งานและความนิยม

1. รถกระบะ

รถกระบะเป็นที่นิยมมากในจังหวัดอุดรธานีค่ะ รถกระบะรับจ้างอุดรธานี เนื่องจากมีความคล่องตัวสูง อีกทั้งยังใช้งานได้หลากหลายประเภท ทั้งการบรรทุกสินค้าเพื่อการค้าและการเดินทางส่วนตัว ขนย้ายที่อยู่ บ้าน หอพัก รถกระบะรับจ้าง สามารถพบเห็นได้ทั่วไปทั้งในตัวเมืองและพื้นที่ชนบท ใช้ในการค้าขาย ขนย้ายสินค้าการเกษตร และใช้ในการเดินทางประจำวันค่ะ


2. รถหกล้อ

รถบรรทุกหกล้อ ถูกใช้สำหรับการขนส่งสินค้า ขนย้ายของ ในกรณีที่มีปริมาณมากๆ เช่น ผลผลิตทางการเกษตร วัสดุก่อสร้าง และสินค้าอุตสาหกรรม และใช้ในการขนย้ายบ้าน มีทั้งบุคคลทั่วไป และใช้งานโดยบริษัทขนส่งหรือผู้ประกอบการที่ต้องการบรรทุกสินค้าปริมาณมากๆ

   
ความสะดวกในการหาใช้งาน

สำหรับการหารถเพื่อที่จะมาใช้งาน หากเป็นการซื้อเพื่อมาใช้ส่วนตัว ไม่ว่าจะ รถกระบะ หรือ รถหกล้อ จะหาง่าย เพราะมีร้านจำหน่าย ศูนย์บริการ และตลาดรถมือสองอยู่ทั่วไป แต่หากเป็นการขนส่งสินค้า ขนย้ายของการติดต่อผู้ให้บริการขนส่งหรือเช่าใช้จากบริษัทที่มีให้บริการ รถกระบะอาจจะหาง่ายกว่า แต่หากต้องการใช้ รถหกล้อรับจ้างอุดรธานี อาจจำเป็นต้องจองบริการรถรับจ้างไว้ล่วงหน้าหลายๆ วัน ยิ่งเป็นพื้นที่ชนบทยิ่งต้องมีแผนสำรองไว้หลายๆทางค่ะ

โดยทั่วไปแล้ว รถกระบะรับจ้าง หาง่ายกว่า รถหกล้อรับจ้าง เนื่องจากมีการใช้งานที่แพร่หลายมากกว่า ทั้งในเมืองและชนบท อย่างไรก็ตาม หากต้องการขนส่งสินค้าปริมาณมาก รถหกล้อรับจ้าง ก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่สำคัญ แม้ว่าจะต้องใช้เวลาในการหามาใช้งานนานมากกว่ารถกระบะก็ตามค่ะ

   
เทคนิคการจองรถให้ได้ใช้รถตามวันเวลาที่กำหนด

การจอง รถรับจ้างอุดรธานี ให้ได้ใช้ตามวันเวลาที่ต้องการนั้นมีเทคนิคง่ายๆ ที่สามารถช่วยให้คุณได้รถตามที่ต้องการ โดยไม่ต้องเผชิญกับความยุ่งยาก ดังนี้:

    จองล่วงหน้า : การจองล่วงหน้าจะช่วยให้คุณมีโอกาสได้เลือกประเภทและขนาดของรถตามความต้องการ ควรจองอย่างน้อย 3-7 วันก่อนวันที่ต้องการใช้ เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีรถพร้อมบริการในวันนั้น
    ตรวจสอบความพร้อมของบริษัท : เลือกบริษัทที่มีบริการหลากหลายประเภท เช่น รถกระบะ รถหกล้อ หรือรถสิบล้อ เพื่อให้สามารถเลือกใช้บริการที่เหมาะสมกับการขนย้ายของได้ดีที่สุด และตรวจสอบรีวิวหรือความน่าเชื่อถือของบริษัทเพื่อความมั่นใจ
    ยืนยันการจอง : หลังจากจองรถแล้ว ควรยืนยันการจองกับบริษัทอีกครั้งหนึ่งในวันก่อนการใช้บริการ เพื่อป้องกันการผิดพลาดหรือการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น
    ระบุรายละเอียดให้ชัดเจน : บอกความต้องการที่ชัดเจน เช่น วันที่ เวลา จุดรับและส่งของ และประเภทของรถที่ต้องการ เพื่อให้บริษัทสามารถเตรียมรถให้เหมาะสม
    เตรียมตัวก่อนวันจริง : ควรเตรียมของที่จะขนย้ายให้พร้อมล่วงหน้า เพื่อลดเวลาการรอคอยและช่วยให้การขนย้ายเป็นไปอย่างราบรื่น

การวางแผนและเตรียมตัวล่วงหน้าเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถใช้ บริการรถรับจ้างอุดรธานี ได้ตามวันที่ต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับใครที่ต้องการใช้ บริการรถรับจ้างขนของ เรามีบริษัทดีดี ที่มีความเชี่ยวชาญ มาแนะนำกันค่ะ นั่นคือ ขนส่ง ผู้ให้บริการ รถรับจ้างอุดรธานี รถรับจ้างขนของ ที่น่าเชื่อถือ ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านการขนส่งโดยเฉพาะ ไม่ว่าคุณจะต้องการ ขนย้ายบ้าน ย้ายหอพัก ขนส่งสินค้า หรือขนของทั่วไป ขนส่งมีรถรับจ้างหลายประเภท ทั้ง รถกระบะ รถหกล้อ และรถสิบล้อ พร้อมให้บริการทุกพื้นที่ในจังหวัดอุดรธานี และพื้นที่ใกล้เคียง

ทำไมต้องเลือก ขนส่ง?

    ทีมงานมืออาชีพ บริการเป็นกันเอง
    มีรถหลายขนาด รองรับทุกความต้องการ
    ราคายุติธรรม คุ้มค่า คุยรายละเอียดได้
    ตรงเวลา ปลอดภัย ไว้ใจได้


บริการครอบคลุมทุกพื้นที่

📍 เมืองอุดรธานี

📍 อำเภอหนองหาน

📍 อำเภอกุมภวาปี

📍 อำเภอบ้านดุง

📍 และพื้นที่ใกล้เคียง

ไม่ว่าคุณจะต้องการขนย้ายอะไร ขนส่ง พร้อมให้บริการ ด้วยราคาที่ยุติธรรม และการขนส่งที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ 100% หากต้องการใช้บริการหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย

หน้า: [1] 2 3 ... 51





























































กลยุทธ์การหาลูกค้าใหม่
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
วิธีการหาลูกค้าของ sale
วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
การหาลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่า
ช่องทางการเข้าถึงลูกค้า
เพิ่มฐานลูกค้าใหม่
รวมเว็บลงประกาศฟรี ล่าสุด
รวมเว็บประกาศฟรี
โพสต์ขายของฟรี
ลงโฆษณาสินค้าฟรี
โฆษณาฟรี
ประกาศฟรี
เว็บฟรีไม่จำกัด
ทำ SEO ติด Google
ลงประกาศขาย
เว็บฟรียอดนิยม
โพสโฆษณา
ประกาศขายของ
ประกาศหางาน
บริการ แนะนำเว็บ
ลงประกาศ
รวมเว็บประกาศฟรี
รวมเว็บซื้อขาย ใช้งานง่าย
ลงประกาศฟรี ทุกจังหวัด
ต้องการขาย
ปล่อยเช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ขายบ้าน คอนโด ที่ดิน
ประกาศฟรี ไม่มี หมดอายุ
เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ
ฝากร้านฟรี โพ ส ฟรี
ลงประกาศฟรี กรุงเทพ
ลงประกาศฟรี ทั่วไทย
ลงประกาศโฆษณาฟรี
ลงประกาศฟรี 2023
รวมเว็บลงประกาศฟรี

ไม่รู้จะขายอะไรดี
อยากขายของดี
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
ขายสินค้าไม่สต๊อกสินค้า
เริ่มขายของออนไลน์
รับทำ seo ด่วน
smf โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์อะไรดี
smf โพสฟรี
อยากขายของออนไลน์ smf
ขายของออนไลน์ยังไงให้มีคนซื้อ
smf เริ่มต้นขายของออนไลน์
ไอ เดีย การขายของออนไลน์
เว็บขายของออนไลน์
เริ่ม ขายของออนไลน์ โพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ที่ไหนดี
เทคนิคการโพสต์ขายของ
smf โพสต์ขายของให้ยอดขายปัง
โพสต์ขายของให้ยอดขายปังโพสฟรี
smf ขายของในกลุ่มซื้อขายสินค้า
โพสขายของยังไงให้มีคนซื้อ
smf โพสขายของแบบไหนดี
โพสฟรีแคปชั่นโพสขายของยังไงให้ปัง
smf แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์
แคปชั่นแม่ค้าออนไลน์ โพสฟรี
ขายของให้ออร์เดอร์เข้ารัว ๆ
smf โพสต์เรียกลูกค้า
โพสต์เรียกลูกค้าโพสฟรี
smf ขายของออนไลน์ให้ปัง
smf โพสต์ขายของ
smf เขียนโพสขายของโดนๆ
แคปชั่นเปิดร้าน โพสฟรี
smf วิธีโพสขายของให้น่าสนใจ
วิธีเพิ่มยอดขาย โพสฟรี
smf เทคนิคเพิ่มยอดขาย

โพสกระตุ้นยอดขาย
วิธีกระตุ้นยอดขาย เซลล์
วิธีแก้ปัญหายอดขายตก
เริ่มต้นขายของ
แหล่งรับของมาขายออนไลน์
ขายของออนไลน์อะไรดี
อยากขายของออนไลน์
เพิ่มยอดขายให้เข้าเป้า
เว็บบอร์ดฟรี
โปรโมทฟรี
มีลูกค้าเพิ่ม - YouTube
ผลักดันยอดขายโปรโมทฟรี
โปรโมทผลักดันยอดขาย
โปรโมทแผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ผล
โปรโมทวิธีการวางแผนการเพิ่มยอดขาย
ยอดขายไม่ดีควรทำอย่างไร
ยอดขายตกเกิดจากอะไร
ทำไมต้องเพิ่มยอดขาย
ขายฟรี
ยอดการขาย คืออะไร
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
โพสฟรีการกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทกระตุ้นยอดขาย
โปรโมทฟรีออนไลน์กระตุ้นยอดขาย
ประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศเพิ่มยอดขาย
ฝากร้านฟรีเพิ่มยอดขาย
ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ เพิ่มยอดขาย
เว็บประกาศฟรีเพิ่มยอดขาย
Post ฟรี
ประกาศขายของฟรี
ประกาศฟรี
โพส SEO
ลงโฆษณาฟรี
โปรโมทเพจร้านค้า

หากลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
ทําไงให้ลูกค้าเข้าร้านเยอะ ๆ
กลยุทธ์เพิ่มยอดขาย
เคล็ดลับขายของดี
ค้าขายไม่ดีทำอย่างไรดี
งานโพสโปรโมทงาน
ทํายังไงให้ขายของดี ออนไลน์
รวม SMFขายสินค้า
ประกาศฟรีออนไลน์
ลงประกาศ สินค้า
เว็บบอร์ด โพสต์ฟรี
ลงประกาศ ซื้อ-ขาย ฟรี
ชุมชนคนไอทีขายสินค้า
ลงประกาศฟรีใหม่ๆ 2023
โปรโมทธุรกิจฟรี
โปรโมทสินค้าฟรี
แจกฟรี รายชื่อเว็บลงประกาศฟรี
โปรโมท Social
โปรโมท youtube
แจกฟรี รายชื่อเว็บ
แจกฟรีโพสเว็บบอร์ดsmf
เว็บบอร์ดsmfโพสฟรี
รายชื่อเว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด
เว็บบอร์ดขายสินค้าฟรี
ฟรี เว็บบอร์ด แรงๆ
โพสขายสินค้าตรงกลุ่มเป้าหมาย
โฆษณาเลื่อนประกาศได้
ขายของออนไลน์
แนะนำ 6 วิธีขายของออนไลน์
อยากขายของออนไลน์
เริ่มต้นขายของออนไลน์
ขายของออนไลน์ เริ่มยังไง
ชี้ช่องขายของออนไลน์
การขายของออนไลน์
สร้างเว็บฟรีประกาศ