หมอประจำบ้าน: รอยแผลเป็นที่หนังศีรษะ (Scalp Scars) รอยแผลเป็นที่หนังศีรษะ (Scalp Scars) เป็นสิ่งที่พบได้บ่อยครับ ไม่ว่าจะเกิดจากอุบัติเหตุ การผ่าตัด การบาดเจ็บ การอักเสบ หรือภาวะทางผิวหนังต่างๆ รอยแผลเป็นเหล่านี้มักจะทำให้เกิดปัญหาหลักๆ คือ ผมไม่ขึ้นบริเวณนั้น ทำให้เห็นเป็นรอยด่างบนหนังศีรษะ ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นใจและความสวยงามครับ
สาเหตุหลักของรอยแผลเป็นที่หนังศีรษะ
รอยแผลเป็นบนหนังศีรษะสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ:
การบาดเจ็บ/อุบัติเหตุ:
การถูกของมีคมบาด: เช่น มีด เศษแก้ว
การถูกกระแทกอย่างรุนแรง: เช่น ศีรษะฟาดพื้น
แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก: ทำให้เซลล์รากผมถูกทำลายถาวร
การผ่าตัด:
การผ่าตัดสมอง: แผลจากการเปิดกะโหลกศีรษะ
การผ่าตัดปลูกผมแบบ FUT (Follicular Unit Transplantation): ซึ่งจะมีการนำหนังศีรษะส่วนท้ายทอยมาปลูก ทำให้เกิดแผลเป็นยาวเป็นเส้น
การผ่าตัดอื่นๆ บนศีรษะ: เช่น การผ่าตัดเนื้องอก ถุงน้ำ
ภาวะทางผิวหนังและการอักเสบ:
โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังที่หนังศีรษะ: เช่น โรคสะเก็ดเงินชนิดรุนแรง (ในบางกรณี) หรือโรคผิวหนังที่ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังจนเซลล์รากผมถูกทำลาย
โรคผมร่วงชนิดมีแผลเป็น (Cicatricial Alopecia): เป็นกลุ่มโรคที่ทำให้เกิดการอักเสบของต่อมไขมันและรากผมอย่างรุนแรง จนรากผมถูกทำลายถาวรและเกิดเป็นแผลเป็นและผมร่วงถาวรในบริเวณนั้น ตัวอย่างเช่น
Lichen Planopilaris (LPP): โรคผิวหนังที่ทำให้เกิดผื่นคันและผมร่วงเป็นหย่อมๆ มีแผลเป็น
Frontal Fibrosing Alopecia (FFA): ผมร่วงเป็นแถบๆ บริเวณแนวไรผมด้านหน้า โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
Discoid Lupus Erythematosus (DLE): โรคแพ้ภูมิตัวเองที่อาจทำให้เกิดแผลเป็นและผมร่วงบนหนังศีรษะ
Folliculitis Decalvans: การอักเสบของรูขุมขนเรื้อรัง ทำให้เกิดหนองและแผลเป็น
การติดเชื้อรุนแรง: เช่น เชื้อรา หรือแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการทำลายเนื้อเยื่ออย่างรุนแรง
ลักษณะของรอยแผลเป็นที่หนังศีรษะ
รอยแผลเป็นอาจมีลักษณะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสาเหตุและกระบวนการหายของแผล:
แผลเป็นเส้น: มักเกิดจากการผ่าตัด
แผลเป็นนูน (Hypertrophic Scar/Keloid): แผลเป็นที่นูนขึ้นมาจากผิวหนัง แต่ยังคงอยู่ในขอบเขตของแผลเดิม (Hypertrophic) หรือขยายใหญ่เกินขอบเขตแผลเดิม (Keloid) มักมีสีแดงหรือคล้ำ และอาจมีอาการคันหรือเจ็บ
แผลเป็นบุ๋ม/ยุบตัว (Atrophic Scar): แผลเป็นที่ยุบลงไปจากผิวหนังปกติ
แผลเป็นฝ่อ: ผิวหนังบางลง ไม่มีรูขุมขน
ไม่มีเส้นผมงอกขึ้น: นี่คือปัญหาหลักที่มักจะสร้างความกังวลให้ผู้ที่มีรอยแผลเป็นบนหนังศีรษะ
การรักษารอยแผลเป็นที่หนังศีรษะและปัญหาผมไม่ขึ้น
การรักษารอยแผลเป็นที่หนังศีรษะขึ้นอยู่กับชนิดของแผลเป็น ขนาด ตำแหน่ง และความกังวลของผู้ป่วย รวมถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดแผลเป็นนั้นๆ:
การรักษาแผลเป็น (ที่ไม่เกี่ยวกับผมไม่ขึ้นโดยตรง):
การฉีดสเตียรอยด์: สำหรับแผลเป็นนูนหรือคีลอยด์ เพื่อลดการอักเสบและทำให้แผลเป็นยุบตัวลง
เลเซอร์: เพื่อปรับสีผิว ลดความนูน หรือกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
การผ่าตัดแก้ไขแผลเป็น: ในกรณีที่แผลเป็นมีขนาดใหญ่หรือทำให้เกิดความตึงรั้ง อาจพิจารณาการผ่าตัดเพื่อทำให้แผลเป็นเล็กลงหรืออยู่ในตำแหน่งที่ซ่อนได้ง่ายขึ้น
แผ่นซิลิโคนเจล/ครีมลดรอยแผลเป็น: สำหรับแผลเป็นใหม่ๆ เพื่อช่วยให้แผลเป็นนุ่มขึ้นและสีจางลง
การแก้ไขปัญหาผมไม่ขึ้นในบริเวณแผลเป็น:
การปลูกผม (Hair Transplantation): เป็นวิธีหลักในการแก้ไขปัญหาผมไม่ขึ้นในบริเวณแผลเป็น โดยการย้ายรากผมจากบริเวณที่มีผมหนาแน่น (เช่น ท้ายทอย) มาปลูกยังบริเวณแผลเป็น วิธีนี้ได้ผลดีหากเลือดไหลเวียนบริเวณแผลเป็นดีพอ
ข้อจำกัด: หากแผลเป็นมีความหนาตัวมาก หรือมีการไหลเวียนเลือดไม่ดี ผลลัพธ์ของการปลูกผมอาจไม่ดีเท่าที่ควร และอาจต้องปลูกมากกว่า 1 ครั้ง
การลดขนาดหนังศีรษะ (Scalp Reduction): เป็นการผ่าตัดเอาหนังศีรษะส่วนที่มีแผลเป็นออก แล้วเย็บหนังศีรษะส่วนที่มีผมเข้ามาแทนที่ เหมาะสำหรับแผลเป็นขนาดเล็กถึงปานกลาง
การย้ายเนื้อเยื่อ (Flap Surgery/Tissue Expansion): เป็นการผ่าตัดนำหนังศีรษะส่วนที่มีผมจากบริเวณข้างเคียงมาปิดบริเวณแผลเป็น วิธีนี้ค่อนข้างซับซ้อนและใช้ในกรณีที่แผลเป็นมีขนาดใหญ่มาก
คำแนะนำสำคัญ
หากคุณมีรอยแผลเป็นที่หนังศีรษะและกังวลเรื่องผมไม่ขึ้น ควรปรึกษา แพทย์ผิวหนัง หรือ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านปลูกผม เพื่อประเมินสาเหตุ ลักษณะของแผลเป็น และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดครับ การรักษาที่ถูกต้องจะช่วยให้รอยแผลเป็นดูจางลง และสามารถแก้ปัญหาผมไม่ขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้คุณกลับมามีความมั่นใจอีกครั้งครับ