การประเมินระดับความร้อนให้เหมาะสมกับลักษณะการทำงานฉนวนกันความร้อนก่อนที่จะเลือกใช้ฉนวนกันความร้อนใดๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือการ ประเมินระดับความร้อน ของพื้นที่ทำงานให้ถูกต้อง เพื่อให้แน่ใจว่าฉนวนที่เลือกมานั้นสามารถทนทานและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด หากเลือกฉนวนที่ทนอุณหภูมิได้น้อยกว่าที่ใช้งานจริง อาจทำให้ฉนวนเสื่อมสภาพหรือเกิดอันตรายได้
ขั้นตอนการประเมินระดับความร้อน
ระบุแหล่งกำเนิดความร้อน:
ความร้อนจากเตาหลอมหรือเตาเผา: เป็นแหล่งความร้อนสูงที่คงที่และต่อเนื่อง
ความร้อนจากท่อไอน้ำ: เป็นความร้อนปานกลางถึงสูงที่มาจากการนำพา
ความร้อนจากแสงอาทิตย์: เป็นความร้อนต่ำกว่าแต่แผ่กระจายตลอดเวลา
ตรวจวัดอุณหภูมิ:
วัดอุณหภูมิพื้นผิว: ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดหรือเทอร์โมคัปเปิลวัดอุณหภูมิที่พื้นผิวของอุปกรณ์หรือท่อ เพื่อให้ได้ค่าที่แม่นยำ
ประเมินอุณหภูมิสูงสุด: นอกจากการวัดอุณหภูมิเฉลี่ยแล้ว ควรประเมินอุณหภูมิสูงสุดที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงที่ระบบทำงานหนักที่สุด เพื่อป้องกันความผิดพลาด
พิจารณาลักษณะการทำงาน:
อุณหภูมิคงที่: หากอุณหภูมิคงที่ตลอดเวลา ควรเลือกฉนวนที่ทนอุณหภูมิสูงสุดได้
อุณหภูมิไม่คงที่: หากอุณหภูมิมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย ควรเลือกฉนวนที่ทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิแบบฉับพลัน (Thermal shock) ได้ดี
เลือกประเภทของฉนวน:
อุณหภูมิสูง (1,000°C ขึ้นไป): ควรเลือกใช้ฉนวนที่มีคุณสมบัติทนความร้อนสูงพิเศษ เช่น เซรามิคไฟเบอร์ ซึ่งสามารถทนความร้อนได้สูงถึง 1,700°C
อุณหภูมิปานกลาง (200-800°C): สามารถเลือกใช้ฉนวนใยหิน (Rock Wool) หรือฉนวนใยแก้ว (Glass Wool) ที่ออกแบบมาสำหรับอุณหภูมิในช่วงนี้
อุณหภูมิต่ำ (ไม่เกิน 200°C): สามารถใช้ฉนวนประเภทโฟมหรือใยแก้วทั่วไปได้
การประเมินระดับความร้อนอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณเลือกฉนวนกันความร้อนได้ถูกต้องตามลักษณะการทำงาน และยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว เพราะฉนวนจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานค่ะ